Review: The Thieves "Ocean's Eleven รสกิมจิ" เหล้ากลิ่นใหม่ในขวดใบเก่า

The Thieves

หนังดังจากแดนกิมจิ The Thieves หรือในชื่อไทยว่า 10 ดาวโจร ปล้นโคตรเพชร นับเป็นหนังที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาลของเกาหลี ทำลายสถิติเดิมจากหนังอสุรกาย The Host ที่เป็นเจ้าของสถิติเก่าอยู่นานถึง 6 ปี หลังจากทำรายได้ไปมากกว่า 9 หมื่นกว่าล้านวอน (ประมาณสองพันหกร้อยกว่าล้านบาท) หนังมันมีดีอะไร ไปดูกันครับ


ว่าด้วยเรื่องของกลุ่มโจรปล้นทรัพย์ 2 กลุ่มที่ได้รับการติดต่อจาก "มาเก๊า ปาร์ค" อดีตโจรย่องเบามืออาชีพที่ห่างหายจากวงการไปนาน ครั้งนี้เค้ากลับมาพร้อมข้อเสนอสำหรับการปล้นเพชรเม็ดงามหลายกะรัตที่มีชื่อว่า Tear of the Sun ซึ่งเป็นของสะสมของเศรษฐินีคนนึง ด้วยนิสัยของโจรย่อมไม่ไว้ใจใครง่ายๆ ทั้งคู่เขม่นกันตั้งแต่แรกเจอ นอกจากนี้โจรฝั่งเกาหลีก็ขอเพิ่มสมาชิกอีก 1 คนที่ทำให้มาเก๊า ปาร์ค ต้องสะอึก เพราะเธอคือเป๊ปซี่ อดีตคนรักเก่าซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญการถอดสลักตู้เซฟ เค้าและเธอเคยมีเรื่องหมางใจกันมาก่อน เพราะงานล่าสุดเมื่อ 4 ปีก่อนหน้านี้ ระหว่างการโจรกรรมทองจำนวน 64 กิโลกรัม เกิดความผิดพลาด สลิงห้อยตัวของมาเก๊าขาด ทำให้เค้าร่วงลงไปในช่องลิฟต์ สัญญาณเตือนภัยดัง และมาเก๊าก็หายตัวไปพร้อมกับทอง ปล่อยให้เป๊ปซี่ ต้องอยู่กับเพื่อนร่วมแก๊งค์อย่างป๊อปอาย ที่แอบรักเธอมานาน จากนั้นพวกเค้าก็วางแผนกันเพื่อเข้าสู่กระบวนการปล้น ซึ่งต้องเข้าไปในโรงแรมหรู โดยแผนวางไว้ว่าต้องปลอมตัวเข้าไปในฐานะแขกที่มาพัก และร่วมเล่นไพ่กับเศรษฐินีคนดังกล่าว จากนั้นจะใช้ลุงคนนึงที่มาเก๊าบอกว่าเป็นสาย ช่วยนำปืนเข้าไปใช้ในโรงแรม และคนอื่นๆ ก็ประจำที่ของตนเอง ทั้งห้องควบคุมของหน่วยรักษาความปลอดภัย ห้องเล่นไพ่ ห้องพักของเศรษฐินี เมื่อทุกอย่างพร้อมจะปิดไฟ ทีมที่อยู่ในห้องพักจะทำการเปิดเซฟ และนำเพชรออกมา ทีมเล่นไพ่จะเล่นไพ่กับเหยื่อตบตาไปเรื่อย ส่วนทีมยึดห้องควบคุมจะคอยถ่วงเวลาให้จนกว่าจะได้เพชร เมื่อได้เพชรมาแล้วก็จะแยกย้ายกันหนี

The Thieves

แต่นั่นเป็นเพียงแผน เมื่อจริงๆ แล้วคนที่รู้ว่าเพชรจริงซ่อนอยู่ที่ไหนคือมาเก๊า ปาร์ค ที่ปลอมเป็นลุงคนส่งปืน เมื่อเค้าได้เพชรไปอย่างแยบยลแล้วก็จะหนี ปล่อยให้ 2 กลุ่มโจรต้องเผชิญหน้ากับตำรวจที่กำลังมาจับ จนทำให้โจรตายฝั่งละ 1 ส่วนเป๊ปซี่ก็เกือบจะไม่รดจากรถจมน้ำ แต่ก็ได้มาเก๊า ปาร์ค ช่วยไว้ทัน

The Thieves

หนังพาเรามายังจุดที่ให้เราเห็นว่ามาเก๊า ปาร์ค ก็คือโจรดีๆ นี่เอง ที่ไม่สามารถไว้ใจได้ แถมยังหักหลังกลุ่มตนเองเพื่อชิงเพชรไปคนเดียวอีกต่างหาก คงจะเอาไปขายสบายแฮ ส่วนพวกที่เหลือก็ต้องหนีการจับกุมแบบหัวซุกหัวซุน แต่มันไม่ใช่แบบนั้นครับ กลุ่มที่เหลือรอดรวมตัวกันเพื่อล้างแค้นมาเก๊า ปาร์ค ส่วนตัวมาเก๊า ปาร์ค ก็จะใช้เพชรที่ได้มาในการล้างแค้น!! เค้าจะล้างแค้นอะไร จุดนี้เองที่แตกต่างจาก Ocean's Eleven ที่ดูเหมือนจะเป็นต้นแบบสำหรับหนังเรื่องนี้ แต่ก็ไม่ใช่ซะทีเดียวครับ ผู้กำกับชอยดองฮุน เลือกที่จะใส่ความเป็นหนังเกาหลีเข้าไป นั่นคือ การก่อปมเล็กๆ ให้เห็นว่ามาเก๊า ปาร์ค ไม่ได้เป็นโจรที่เลวร้าย แต่เป็นโจรโดยสันดาร เค้าไม่ได้ถูกสังคมบังคับให้เค้าเป็นโจร แต่เค้าเลือกเองที่จะเป็นโจร หนังเฉลยให้เราเห็นว่าพ่อของเค้าซึ่งเป็นโจร ถูกมาเฟียขาใหญ่รายนึงฆ่าตาย ในห้องที่ปัจจุบันเค้าซ่อนเพชร Tear of the Sun เอาไว้นั่นเอง นั่นคือแผนการที่วางไว้อย่างเหนือความคาดหมาย

The Thieves

นอกจากนี้เหตุที่ทำให้เค้าร่วงลงไปในช่องลิฟต์ระหว่างการโจรกรรมทอง 64 กิโลกรัม เป็นเพราะเพื่อนร่วมทีม ป๊อปอาย ที่ใช้เลื่อยหั่นสลิงเอาไว้จนเป็นแผล แถมหลังจากเกิดเรื่องแล้วยังพยายามแย่งเป๊ปซี่คนรักของมาเก๊าไปเป็นของตนอีก ทำให้เป๊ปซี่ต้องเข้าใจผิดในตัวมาเก๊า ปาร์ค อยู่นานหลายปี จนมารู้ความจริงก็ตอนที่ตนเองมาเจอเพชร Tear of the Sun ในห้องที่มาเก๊าจัดฉากเตรียมไว้สำหรับการล้างแค้นนั่นเอง เห็นมั้ยครับว่าจริงๆ แล้วหนังเรื่องนี้ก็มีอะไรที่แตกต่างจาก Ocean's Eleven อยู่เยอะทีเดียว นอกจากจะเป็นหนังโจรกรรมคอมเมดี้แล้วยังให้อารมณ์หวานแหววแบบยัยตัวร้าย(แหงล่ะ ก็จวนจีฮุนเล่นเป็นยัยตัวแสบของเรื่องนี้ด้วย)ในฉากที่จำปาโน่(คิมซูฮยอน)ตะโกนบอกรักเยนิคอล(จวนจีฮุน) ที่จำปาโน่แอบรักข้างเดียวมานาน ก่อนจะโดนตำรวจจับ ต่อด้วยอารมณ์หดหู่ ในฉากที่อาเฉิน(เยิ่นต๊ะหัว) ที่เพิ่งพบรักกับชิววิ่งกัม(คิมเฮซุก) ถูกตำรวจไล่ยิงจนในที่สุดก็ตายทั้งคู่ ต่อด้วยอารมณ์เครียดของหนังในฉากที่มาเก๊า ปาร์คเล่าความจริงทุกอย่างในเหตุปล้นทอง และกลับไปเจอเพื่อนรักของตนกำลังหักเหลี่ยมด้วยการมีเลิฟซีนร้อนแรงกับหญิงคนรักของตน และหลังจากนั้นก็เป็นอารมณ์ลุ้นระทึกตลอดเวลา หลังจากที่กลุ่มมาเฟียพยายามไล่ฆ่ามาเก๊า ปาร์ค ที่กำลังไต่ระเบียงหนี และยังปิดท้ายแบบหักมุมครั้งแรกด้วยว่าใครเป็นคนได้เพชรของจริงไป จากนั้นก่อนจบเรื่อง หนังยังหลอกให้เราเห็นว่ามาเก๊า ปาร์ค แอบมาง้อเป๊ปซี่ ด้วยการทิ้งทองคำที่เคยโจรกรรมมา ไว้ในกระโปรงท้ายรถ ก่อนจะจบเรื่องได้แบบหักมุมเข้าไปอีก เรียกได้ว่าครบทุกรสชาติสำหรับหนังเรื่องนี้ครับ

The Thieves

แม้ว่าจะมีจุดอ่อนบ้าง เช่น ฉากโดดระเบียงยังดูออกว่าใช้สลิงช่วย และตัวลุงที่ปลอมตัวโดยมาเก๊า ปาร์ค ดูออกง่ายไป หรือแนวทางการปล้นมันดูคุ้นเคยมาแล้วจากหนังดังเรื่องอื่นๆ แต่จุดเด่นในหนังด้านอื่นๆ ก็มาหักลบกันได้ ทั้งด้านตัวนักแสดงที่เป็นนักแสดงที่เล่นได้สมบทบาท ถ้าใครคิดถึงยัยตัวร้ายอย่างจวนจีฮุน เรื่องนี้เราได้เห็นเลยว่าเธอเป็นยัยตัวแสบ เปรี้ยวซ่า น่ารัก คิมยุนซอกก็เป็นจอมโจรมาเก๊า ปาร์ค ได้อย่างแนบเนียน ที่ไม่เดาได้เลยว่ากำลังคิดอะไร คิมเฮซูในบทของเป๊ปซี่ นักถอดสลักสาวใหญ่สวยเซ็กซี่ที่สับสนในความรู้สึกของตนเองต่อมาเก๊า ปาร์ค ลีจุงแจในบทของป๊อปอาย โจรที่หักหลังเพื่อนและพยายามแย่งคนรักของเพื่อน และมาดของเยิ่นต๊ะหัวระหว่างการดวลปืนกับตำรวจที่ทำให้ผมนึกถึงหนังฮ่องกงในยุค 80 ทั้งหมดนี้จึงทำให้หนังเรื่องนี้ดังพลุแตกในเกาหลีใต้ แต่ในเมืองไทย ผมคิดว่าคนไทยติดภาพของหนังเกาหลีสมัยที่ยังเป็นหนังรักโรแมนติกแบบยัยตัวร้ายฯ จึงไม่ค่อยมีกระแสตอบรับที่ดีกับแนวอื่นๆ ของหนังเกาหลี ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้ว ถ้าเราไม่ไปยึดติดกับอะไร หนังเรื่องนี้ก็สนุกดีไม่แพ้หนังฮอลลีวู้ดเลยครับ สำหรับผมเองได้เห็นจวนจีฮุนและคิมเฮซูในเรื่องเดียวกันก็คุ้มแล้ว ^ ^"

โปรแกรมหนังเข้าใหม่ 4 เมษายน 2556

คู่กรรม

โปรแกรมหนังเข้าใหม่ 4 เมษายน 2556 มีหนังน่าสนใจหลายเรื่องทั้งไทยและเทศที่เข้าโรงฉายในสุดสัปดาห์นี้ โดยเฉพาะหนังไทยที่ได้รับการจับตามองเป็นพิเศษอย่าง คู่กรรม เวอร์ชั่นใหม่ โดยฝีมือของผู้กำกับ กิติกร เลียวศิริกุล พบการฝีมือการแสดงอันยอดเยี่ยมของ ณเดชณ์ คูกิมิยะ ในบทของโกโบริ นายทหารชาวญี่ปุ่นที่มาพบรักกับผู้หญิงไทยอย่างอังศุมาลิน ที่แสดงโดยดาราหน้าใหม่ ริชชี่ อมราวดี ดีคาบาเลส จากบทประพันธ์อมตะของ ทมยันตี

ส่วนอีกเรื่องเป็นหนังที่สร้างจากนิยายของ Stephenie Meyer (Twilight Trilogy) เรื่องราวของความรักและการต่อสู้เพื่อการปลดปล่อยมวลมนุษยชาติจากการยึดครองร่าง The Host นำแสดงโดย Saoirse Ronan นักแสดงสาวที่เคยบีบหัวใจคนดูมาแล้วใน Atonement ปิดท้ายด้วยหนังอนิเมชั่นผจญภัยสำหรับครอบครัวใน The Croods จากทีมครีเอทีฟแห่งดรีมเวิร์กส์ ที่จะพาคุณกลับสู่โลกดึกดำบรรพ์ และครอบครัวตัวป่วนที่จะมาเรียกเสียงฮาของทุกๆ คน ให้เสียงพากษ์โดย Nicolas Cage, Emma Stone, Ryan Reynolds, Catherine Keener, Clark Duke, Cloris Leachman

โปรแกรมหนังเข้าใหม่ 4 เมษายน 2556


คู่กรรม


คู่กรรม



ชื่อหนัง

คู่กรรม

ประเภท

Drama, Romance

สตูดิโอ

M๓๙

ผู้กำกับ

กิติกร เลียวศิริกุล

นักแสดง

ณเดชน์ คูกิมิยะ, ริชชี่ อมราวดี ดีคาบาเลส

เรื่องย่อ

เรื่องราวความรักในไฟสงครามของทหารหนุ่มเลือดซามูไร โกโบริ กับผู้หญิงไทย อังศุมาลิน ที่จะมาสร้างความประทับใจและเรียกน้ำตาของคุณ จากบทประพันธ์อมตะของทมยันตี "คู่กรรม" 4 เมษายนนี้ ทุกโรง


The Host ต้องยึดร่าง


The Host ต้องยึดร่าง



ชื่อหนัง

The Host ต้องยึดร่าง

ประเภท

Sci-fi, Thriller, Romantic

สตูดิโอ

Open Road Films

ผู้กำกับ

Andrew Niccol

นักแสดง

Saoirse Ronan, Jake Abel, Max Irons, Chandler Canterbury, Frances Fisher, Diane Kruger, William Hurt

เรื่องย่อ

The Host สร้างจากนิยายขายดีของ Stephenie Meyer ผู้เขียนแวมไพร์ทไวไลท์ เกี่ยวกับเรื่องราวการต่อสู้ของ Melanie Stryder ที่ถูกสิ่งมีชีวิตจากต่างดาวที่เรียกว่าโซล ยึดครองร่าง แต่เธอไม่ยอมแพ้ และพยายามออกตามหาคนที่เธอรัก และพลังของความรักนั่นเองที่จะเป็นกุญแจสำคัญของมนุษย์ในการปลดแอกตนเองจากการยึดครองร่าง


The Croods มนุษย์ถ้ำผจญภัย


The Croods มนุษย์ถ้ำผจญภัย



ชื่อหนัง

The Croods มนุษย์ถ้ำผจญภัย

ประเภท

Animation, Adventure, Comedy

สตูดิโอ

20 Centuries Fox

ผู้กำกับ

Kirk De Micco, Chris Sanders

นักแสดง

Nicolas Cage, Emma Stone, Ryan Reynolds, Catherine Keener, Clark Duke, Cloris Leachman

เรื่องย่อ

The Croods มนุษย์ถ้ำผจญภัย ผลงานจาก DreamWorks Animation เรื่องราวการผจญภัยยุคดึกดำบรรพ์แนวคอมเมดี้ของครอบครัวมนุษย์กลุ่มแรกของโลกที่ต้องออกผจญภัยอย่างกระทันหัน เมื่อถ้ำที่พวกเขาหลบซ่อนตัวจากภัยอันตรายกลับถูกทำลายลง ผู้นำครอบครัวผู้หวาดกลัวโลกภายนอกจึงต้องพาครอบครัวของเขาเดินทางข้ามภูมิประเทศที่กว้างใหญ่และเต็มไปด้วยอันตรายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เผชิญกับสัตว์ที่เป็นมิตรและศัตรูมากมายที่ไม่เคยเจอมาก่อน

อันดับหนังทำเงินสุดสัปดาห์ประเทศไทย ประจำวันที่ 28 - 31 มีนาคม 2013

พี่มาก พระโขนง

อันดับหนังทำเงินสุดสัปดาห์ประเทศไทย ประจำวันที่ 28 - 31 มีนาคม 2556 หนังสยองขวัญคอมเมดี้ พี่มาก พระโขนง เปิดตัวมาเป็นอันดับ 1 ด้วยรายได้ 102,023,326 บาท ขณะที่ G.I. Joe: Retaliation หนังแอ๊คชั่นภาคต่อสุดไฮเทค ก็เข้ามาที่อันดับ 2 ด้วยรายได้ 46,453,653 บาท แต่รายได้รวมแล้ว 61,781,610 บาท อันดับ 3 เป็น Olympus Has Fallen หนังแอ๊คชั่นถล่มทำเนียบขาว ทำรายได้ 2,633,459 บาท รวม 22,217,163 บาท

อันดับ 4 เป็น Lincoln หนังอัตชีวประวัติของอดีตประธานาธิบดีอับราฮัม ลินคอล์น ทำรายได้ 624,780 บาท จากการฉายจำกัดโรงเพียง 5 โรง อันดับ 5 เป็น OOO, Den-O, All Riders: Let's Go Kamen Riders หนังซุปเปอร์ฮีโร่คาเมนไรเดอร์ ทำรายได้ 435,341 บาท รวม 2 สัปดาห์ทำได้ 4,170,413 บาท

Thailand Box Office 28 - 31 March 2013

อันดับ

ชื่อหนัง

ค่าย

รายได้ (บาท)

รายได้รวม (บาท)

สัปดาห์

1

พี่มาก พระโขนง

GMM Thai Hub

102,023,326

102,023,326

1

2

G.I. Joe: Retaliation

UIP

46,453,653

61,781,610

1

3

Olympus Has Fallen

M

2,633,459

22,217,163

2

4

Lincoln

n/a

624,780

624,780

1

5

OOO, Den-O, All Riders: Let's Go Kamen Riders

n/a

435,341

4,170,413

2


ที่มา Box Office Mojo

อันดับหนังทำเงินสุดสัปดาห์สหรัฐ วันที่ 29 - 31 มีนาคม 2013

G.I. Joe: Retaliation

อันดับหนังทำเงินสุดสัปดาห์สหรัฐ ประจำวันที่ 29 - 31 มีนาคม 2013 อันดับหนึ่งหนังเปิดตัวแรง G.I. Joe: Retaliation หนังแอ๊คชั่นไฮเทคภาคต่อสุดมันส์ นำแสดงโดย Dwayne Johnson, Channing Tatum, Bruce Willis, Lee Byung Hun ทำรายได้ 40,501,814 เหรียญ ขณะที่หนังอนิเมชั่น The Croods ของค่ายดรีมเวิร์คส์ หล่นมาอยู่อันดับ 2 ด้วยรายได้ 26,705,868 เหรียญ รวมแล้วตอนนี้รายได้อยู่ที่ 88,887,945 เหรียญ จาก 2 สัปดาห์

ขณะที่อันดับ 3 เป็นของ Tyler Perry's Temptation: Confessions of a Marriage Counselor หนังดราม่าคนผิวสีของ Tyler Perry เปิดตัวมาด้วยรายได้ 21,641,679 เหรียญ อันดับ 4 เป็นของ Olympus Has Fallen หนังแอ๊คชั่นของ Gerard Butler ทำรายได้ 14,147,416 เหรียญ และอันดับที่ 5 Oz The Great and Powerful หนังผจญภัยแฟนตาซีโลกเวทย์มนต์ของ James Franco ทำรายได้ 11,702,316 เหรียญ รวมรายได้ทั้งหมดตั้งแต่ฉายมาก็โกยไปแล้ว 198,374,716 เหรียญ จากทุนหนัง 215 ล้านเหรียญ พ่อมดอ๊อซคงต้องลุ้นกันหน่อยแล้ว

USA Box Office 29 - 31 March 2013

อันดับ

ชื่อหนัง

ค่าย

รายได้ (U.S. Dollar)

รายได้รวม (U.S. Dollar)

สัปดาห์

1

G.I. Joe: Retaliation

Paramount

40,501,814

51,008,689

1

2

The Croods

Fox

26,705,868

88,887,945

2

3

Tyler Perry's Temptation: Confessions of a Marriage Counselor

Lions Gate

21,641,679

21,641,679

1

4

Olympus Has Fallen

Film District

14,147,416

54,890,085

2

5

Oz The Great and Powerful

Walt Disney Pictures

11,702,316

198,374,716

4


ที่มา Box Office Mojo

Exclusive: One Game at a Time

Wrek-it Ralph

ตำรวจ-ผู้ร้าย, นางเอก-ตัวอิจฉา , อุลตร้าแมน-มนุษย์ดาวบัลตั้น !! เป็นสูตรสำเร็จของโลกไปซะแล้ว หากจะต้องการเชิดชูความดีงามและคุณธรรมอันสูงส่งของมวลมนุษยชาติ ง่ายดายมาก แค่ทำตัวร้ายให้ดูอัปลักษณ์(ยกเว้นนางร้ายละครไทย) ทำตัวเอกให้ดูเฟิร์มมีซิกแพค อวดอ้างด้วยสรรพคุณเหนือจริงอีกสักหน่อยเพียงเท่านี้ฉากจบ ก็คงไม่พ้นต้องเห็นความพินาศย่อยยับของตัวร้ายเสมอไป


แต่จะเกิดอะไรขึ้น หากตัวร้ายไม่ยอมทำงาน ละทิ้งหน้าที่จอมวายร้าย งอนแงนสังคมที่ชอบชี้หน้าตีตราเป็นคนเลว ทีนี้พระเอก,ฮีโร่เหล่าผู้ผดุงคุณธรรม ก็ไม่มีวายร้ายให้กระหน่ำโจมตีปราบปรามอีกต่อไป คุณธรรมความดี จะไม่ใช่สิ่งที่ต้องเชิดชูโอ่อ้างกันอีกต่อไป มันจะกลายเป็นเพียง สิ่งปรุงแต่งดาษดื่น หากจะกระชับให้สั้น ตัวร้าย เป็นตัวที่ช่วยส่งเสริมพระเอกให้โดดเด่น โลดแล่นเกินจริงกว่าที่มันควรจะเป็น ถ้าโลกเรามีแต่ฮีโร่ ทุกๆคนเป็นฮีโร่ ฮีโร่คนดี ก็เป็นเพียงแค่คนธรรมดาๆ เช่นนั้นเอง

Wrek-it Ralph

ไม่ผิดแปลกอะไร หากสักวันในความคิดของผู้ร้าย อยากรับบทฮีโร่บ้าง อยากได้เสียงปรมมือเยินยอบ้าง ในทุกๆวัน มีผู้คนมากมายที่ยังคงใฝ่ฝันอย่างต่อเนื่อง ถึงในสิ่งที่ตรงกันข้ามกับความเป็นจริง เราต้องจำน้อมรับว่างานบางงาน อาชีพบางอาชีพ ไม่ได้ถูกสร้างและมีไว้สำหรับเราทุกคนบางงานบางอาชีพมันถูกสงวนไว้สำหรับคนประเภทหนึ่งเท่านั้น เราไม่อาจประสบความสำเร็จเฉกเช่นบุคคลอื่น แต่เราเลือกที่จะประสบความสำเร็จในรูปแบบของเราเองได้

Wrek-it Ralph

บ่นได้บ้าง ตัดพ้อได้บ้าง ไม่เป็นไร หากแต่ต้องตระหนัก และเข้าใจถ่องแท้ ของคำว่า "หน้าที่" พยายามมองหาความสุขเล็กน้อยที่ได้จากงาน ชื่นชมยินดีกับความสุขเล็กน้อยนั่น หันกลับมามองดูความสามารถของตัวเอง ชมตัวเองบ้าง ให้รางวัลตัวเองบ้าง ถึงไม่ได้เป็นฮีโร่ในสายตาผู้อื่น ก็ไม่เป็นไร เป็นฮีโร่ในสายตาคนรอบข้าง และเป็นฮีโร่ให้ตัวเอง ย่อมทำได้โดยไม่ต้องขัดเขิน

Wrek-it Ralph

ราล์ฟ วายร้ายจอมทุบ กล่าวไว้ว่า

"I'm bad and that's good. I will never be good and that's not bad. There's no one I'd rather be, than me."
"ฉันเลวซึ่งนั้นก็ดี ฉันจะไม่มีวันเป็นคนดี ซึ่งนั่นก็ไม่เลว ไม่มีใครที่ฉันอยากจะเป็น ไปมากกว่าตัวฉันเองอีกแล้ว"

โดย merablur
หนัง Wreck-It Ralph : ราล์ฟ วายร้ายหัวใจฮีโร่

Roland Emmerich เผยรายละเอียดเกี่ยวกับภาคต่อของ ID4

Independence Day

ผ่านมากว่า 17 ปีแล้วที่ฉากระเบิดตึกเอ็มไพร์สเตตและทำเนียบขาวในหนังเรื่อง Independence Day หรือ ID4 สงครามวันดับโลก ยังคงติดตาแฟนหนังมาจนถึงทุกวันนี้ ทางผู้กำกับ Roland Emmerich ก็ออกมาเปิดเผยรายละเอียดเล็กน้อยให้ฟัง ผ่านทาง EW ครับ

ผู้กำกับคนเก่งบอกว่าจะมีภาคต่อ 2 ตอน แบ่งเป็น ID Forever Part 1 และ ID Forever Part 2 โดยห่างจากเหตุการณ์ใน ID4 ที่เอเลี่ยนส่งยานรบมารุกรานโลกถึง 20 ปีครับ


โรแลนด์กล่าวว่า "ทุกคนรู้แล้วว่าซักวันจะมีเอเลี่ยนบุกโลกอีก และรู้ดีว่าการเดินทางข้ามอวกาศจะต้องเดินทางผ่านเส้นทางรูหนอน (Wormhole) ซึ่งเป็นทางลัด ด้วยเทคโนโลยีของเอเลี่ยนทำให้พวกมันสามารถเดินทางข้ามอวกาศมายังโลกได้ภายใน 3 อาทิตย์ แต่สำหรับมนุษย์คงต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 20-25 ปี"

เมื่อถามถึงสภาพแวดล้อมใน ID Forever โรแลนด์กล่าวว่า "โลกที่เปลี่ยนไปแล้ว มันฟังคล้ายๆ กับประวัติศาสตร์คู่ขนาน หลังเหตุการณ์ใน ID4 ทำให้มนุษย์ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีของเอเลี่ยนได้ แต่ไม่สามารถสร้างเลียนแบบได้ เพราะมันถูกสร้างมาด้วยเทคโนโลยีเฉพาะตัว แต่เราสามารถนำอุปกรณ์ต้านทานแรงโน้มถ่วงมาใช้งานได้ และเรานำมันมาใส่ในเครื่องบิน"

สำหรับตัวนักแสดง Bill Pullman ซึ่งเคยรับบทประธานาธิบดีใน ID4 จะกลับมาเล่นอีกครั้ง ขณะที่ Will Smith ยังไม่ได้ตอบรับงานนี้ ซึ่งหนังจะโฟกัสไปยังเหล่าคนรุ่นใหม่ ซึ่งอาจรวมไปถึงลูกบุญธรรมของ Will Smith ในภาคแรกครับ โรแลนด์บอกว่า "ตัวละครส่วนใหญ่จะเป็นนักแสดงหน้าใหม่ บางส่วนคือหน้าเดิม"

โรแลนด์บอกว่าหนังภาคต่อนี้จะเป็นเรื่องราวที่น่าตื่นเต้นยิ่งกว่าเดิม "สำหรับภาคแรก จะจบลงด้วยความสำเร็จเล็กๆ แต่นั่นก็มากพอสำหรับความหวังของมวลมนุษย์ ส่วนภาคต่อจะจบลงด้วยการปลดแอกตนเองจากเอเลี่ยนได้แล้ว"

มีคำถามว่าตอนจบของ ID4 สถานที่ต่างๆ ในโลกถูกทำลายจนพังพินาศไปหมดแล้ว แล้วภาคต่อจะเป็นยังไง โรแลนด์บอกว่า "มนุษย์สร้างโลกขึ้นมาใหม่ ส่วนเอเลี่ยนก็มีอะไรใหม่ที่แตกต่างจากเดิมเหมือนกัน"

แฟนหนังอย่าเพิ่งคาดหวังว่าจะได้ดูภาคต่อของหนังบล๊อคบัสเตอร์เรื่องนี้ในเร็วๆ นี้นะครับ เพราะในเดือนกรกฎาคมนี้หนังเรื่อง White House Down ของโรแลนด์ เอ็มเมอริชจะลงโรงฉาย นั่นอาจหมายถึงกว่าเราจะได้ดูกันก็หลังจากนี้อีกซักปีหรือสองปีครับ เพื่อให้โรแลนด์และทีมงานกับค่ายหนังพร้อมสำหรับการเปิดกล้องถ่ายทำครับ

ตัวอย่างหนัง White House Down ถล่มทำเนียบขาวอีกเรื่อง

White House Down

ช่วงนี้มีหนังที่ใช้ทำเนียบขาวเป็นโลเกชั่นหลักในการถ่ายทำเข้ามาให้ชมกันเยอะพอสมควรครับ สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา Olympus Has Fallen ก็เพิ่งเข้าฉาย และตอนนี้ White House Down หนังแอ๊คชั่นถล่มทำเนียบขาวอีกเรื่องก็ปล่อยตัวอย่างหนังออกมาให้ชมกันแล้วครับ (Updated: ตัวอย่างหนัง White House Down ความยาว 4 นาที)

White House Down เป็นเรื่องของจอห์น เกล (Channing Tatum) เจ้าหน้าที่ตำรวจลับที่ต้องคอยคุ้มกันประธานาธิบดี เกลพาลูกสาวของตนมาเที่ยวที่ทำเนียบขาวในวันหยุด แต่เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อมีกองกำลังติดอาวุธเข้ามายึดทำเนียบขาว ทำให้เกลต้องหาทางยับยั้งแผนก่อการร้าย และช่วยลูกสาวกับประธานาธิบดี ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไปครับ


หนังกำกับโดย Roland Emmerich ผู้กำกับ ID4, The Day After Tomorrow, 2012 ครับ โดยมี Ute Emmerich, Channing Tatum และ Reid Carolin มาเป็น Executive Producer นำแสดงโดย Channing Tatum, Jamie Foxx, Maggie Gyllenhaal, Jason Clarke, Richard Jenkins, James Woods เข้าฉายเดือนกันยายนนี้ครับ ชมตัวอย่างหนังและโปสเตอร์ได้ด้านล่างครับ



White House Down Poster
White House Down Poster
White House Down Poster
White House Down Poster

ที่มา The Film Stage

Exclusive: ใครเหมาะจะเป็น Lara Croft คนต่อไป?

Lara Croft - Tomb Raider

จากข่าวคราวการประกาศรีบู๊ตหนังเวอร์ชั่นใหม่ให้กับ Tomb Raider ก็มีคำถามต่อมาครับว่า "ใครเหมาะจะเป็น Lara Croft คนต่อไป?" วันนี้เราลองมาสำรวจความคิดเห็นจากแฟนๆ ของเกมนี้กันครับว่าใครเหมาะที่สุดที่จะมาผจญภัยในฐานะลาร่า ครอฟต์

แฟนๆ ของ Tomb Raider ต่างก็มีแคนดิเดตในดวงใจสำหรับบทบาทลาร่า ครอฟต์ อยู่แล้ว และได้แสดงความคิดเห็นผ่านทาง Comingsoon ครับ ซึ่งมีหลากหลายตัวเลือก เช่น


Camilla Luddington

Camilla Luddington ซึ่งเป็นผู้ให้เสียงตัวละครลาร่า ครอฟต์ ในเกมเวอร์ชั่นล่าสุด รวมไปถึงการเคลื่อนไหวผ่านเทคนิค Motion Capture ด้วย แน่นอนว่าเธอต้องเป็นชื่อแรกๆ ที่แฟนๆ อยากให้ได้รับบทในหนัง

Emilia Clarke

Emilia Clarke นักแสดงสาวจากซีรี่ส์ Game of Thrones

Emma Watson

Emma Watson เราจดจำเธอได้เป็นอย่างดีในบทบาทของเฮอร์ไมโอนี่จากแฮรี่ พอตเตอร์ นอกจากนี้เธอยังเป็นนักแสดงจากประเทศอังกฤษ ทำให้แฟนๆ ลาร่า ครอฟต์ อยากให้เธอได้รับบทนี้ (จากเนื้อเรื่องในเกม ลาร่า ครอฟต์ เป็นชาวอังกฤษ)

Gina Carano

Gina Carano นักแสดงสาวจาก Haywire เรื่องบู๊เป็นเรื่องถนัดของเธออยู่แล้ว

Kate Beckinsale

Kate Beckinsale นางเอกสาวที่พิสูจน์ฝีมือการเป็นนักแสดงหนังบู๊มาแล้ว จาก Underworld

Jennifer Lawrence

Jennifer Lawrence ซึ่งกำลังโด่งดังจาก The Hunger Game และ Silver Lining Playbook ก็มีแฟนๆ เชียร์ให้เธอได้บทนี้เช่นกัน

Lyndsy Fonseca

Lyndsy Fonseca เราเห็นเธอใน Kick Ass กันมาแล้ว และเธอก็เป็นอีกหนึ่งแคนดิเดตที่แฟนๆ ลาร่า ครอฟต์ อยากเห็นเธอมาผจญภัยใน Tomb Raider

Olivia Wilde

Olivia Wilde นักแสดงสาวจาก TRON: Legacy, In Time, Dead Fall เป็นนักแสดงที่มีแววตาน่าค้นหา ก็เป็นหนึ่งในแคนดิเดตที่น่าสนใจสำหรับลาร่า ครอฟต์

นอกเหนือจากนี้ยังมี Megan Fox, Jennifer Lopez, Gemma Aterton, Rebecca Hall ที่ได้รับการเสนอชื่อจากแฟนๆ Tomb Raider ครับ เราคงต้องคอยดูกันต่อไปว่าใครจะได้รับบทสาวนักผจญภัยชั้นยอด แต่สำหรับผมแล้วอยากให้ Olivia Wilde ได้เล่นเป็นลาร่า ครอฟต์ แล้วคุณล่ะคิดว่าไงครับ ร่วมเสนอความคิดเห็นมาได้ด้านล่างเลยครับ

MGM จับมือกับ GK Films คืนชีพหนัง Tomb Raider

Tomb Raider

Gary Barber CEO ของ MGM และ Graham King ผู้ก่อตั้ง GK Films ได้ประกาศความร่วมมือกันในการสร้างหนัง Tomb Raider หนังแอ๊คชั่นผจญภัยที่สร้างจากแฟรนไชส์วิดีโอเกมที่มี Lara Croft เป็นตัวละครนำ

ก่อนหน้านี้ MGM ได้ซื้อลิขสิทธิ์หนังจากบริษัท Square Enix ซึ่งเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์เกม Tomb Raider ที่กำลังวางจำหน่ายในขณะนี้ หลังจากที่ได้รีเมคตัวเกมกลับมาใหม่ ให้ลาร่า ครอฟต์ กลับมาโลดแล่นบนแพลตฟอร์มวิดีโอเกมอีกครั้ง โดย Graham King จะเป็น Producer ให้สำหรับหนังฉบับใหม่ครับ แม้จะยังไม่มีการประกาศตัวผู้แสดง แต่ทาง GK Films จะเดินหน้าถ่ายทำหนังทันที


ทั้งนี้ Gary Barber กล่าวว่า "เกรแฮมเป็นหนึ่งในโปรดิวเซอร์ชั้นนำของวงการ ผมดีใจมากๆ ที่เราได้มาร่วมงานกันในแฟรนไชส์หนังที่น่าตื่นเต้นเรื่องนี้ เราจะวางแผนเพื่อพัฒนาโปรเจ็คต์ร่วมกันต่อไปในอนาคต"

ส่วน Graham King บอกว่า "ผมตื่นเต้นที่จะได้รีบูตเครื่องใหม่สำหรับ Tomb Raider พร้อมกับแกรี่ และ MGM หลังจากเกมที่กำลังวางจำหน่ายตอนนี้ได้รับความนิยมมาก เป็นแรงกระตุ้นให้เราอยากจะสร้างหนังจนแทบอดใจรอไม่ไหวเลยล่ะ"

สำหรับเกม Tomb Raider เปิดตัวครั้งแรกในปี 1996 โดยบริษัท Eidos ของประเทศอังกฤษเป็นผู้สร้าง และกลายเป็นหนึ่งในเกมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในยุคนั้น ปัจจุบันทั้ง Eidos และ Crystal Dynamics ซึ่งเป็นผู้พัฒนาเกมเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทสื่อบันเทิงชื่อดัง Square Enix โดย Tomb Raider มียอดจำหน่ายในอดีตสูงถึง 35 ล้านแผ่น ทำให้ลาร่า ครอฟต์ กลายเป็นหนึ่งในตัวละครเกมที่มีคนจดจำมากที่สุดครับ และเมื่อวันที่ 5 มีนาคมที่ผ่านมา Square Enix ก็เพิ่งจะวางจำหน่ายเกม Tomb Raider ที่รีบูตเนื้อเรื่องใหม่หมด เป็นการสร้างการผจญภัยบทใหม่ให้กับแฟรนไชส์เกมครับ

สำหรับฉบับหนังเดิมเคยมีการสร้างไว้ในปี 2001 และ 2003 ที่พาราเม้าท์เป็นผู้สร้าง และหนังก็ส่งให้ชื่อของ Angelina Jolie โด่งดังในบทของลาร่า ครอฟต์ ทั้งสองภาคทำรายได้ไปกว่า 432 ล้านเหรียญจากทั่วโลกครับ

ตอนนี้แฟนๆ เกมต่างก็ลุ้นกันว่านักแสดงคนไหนจะได้รับบทเป็นลาร่า ครอฟต์ สาวสวยนักผจญภัยคนเก่ง ซึ่งสำหรับฉบับเกมเวอร์ชั่นนี้ ลาร่า ครอฟต์ ใช้เทคโนโลยี Motion Capture จากนักแสดงหญิงที่มีชื่อว่า Camilla Luddington ครับ

Camilla Luddington

ที่มา Comingsoon

ตัวอย่างหนัง The Wolverine อย่างเป็นทางการ

The Wolverine

ในที่สุด 20th Century Fox ก็คายตัวอย่างหนัง The Wolverine อย่างเป็นทางการออกมาเรียบร้อยแล้วครับ แถมยังปล่อยออกมา 2 เวอร์ชั่นติดกัน โดยแบ่งเป็นเวอร์ชั่น U.S. และเวอร์ชั่น International (ชมคลิปตัวอย่างหนังชุดที่ 2 ของ The Wolverine)

ตัวอย่างหนัง The Wolverine บอกเราว่าเป็นเรื่องราวยุคปัจจุบันของโลแกน (รับบทโดย Hugh Jackman) หลังจากเหตุการณ์ใน X-Men: The Last Stand โลแกนเดินทางมายังประเทศญี่ปุ่นตามคำเชิญของซามูไรสาว ซึ่งรับบทโดย Rila Fukushima และได้พบกับหัวหน้าแก๊งค์ยากูซ่า Shingen Yashida (รับบทโดย Hiroyuki Sanada) ที่ครั้งหนึ่งโลแกนเคยช่วยชีวิตไว้ตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ทำให้เค้ารอดจากระเบิดนิวเคลียร์ และเรายังได้เห็นตัวละครอื่นๆ อีก ทั้ง Svetlana Khodchenkova ในบทของ Viper ที่ดูเหมือนเธอจะมีอะไรบางอย่างทำให้โลแกนสูญเสียความเป็นอมตะ Tao Okamoto ในบทของ Mariko Yashida ลูกสาวของหัวหน้าแก๊งค์ยากูซ่า และ Will Yun Lee ในบทของ Silver Samurai


ตัวอย่างหนังทำได้น่าสนใจมากครับ มีปมให้คิดว่าอะไรเป็นสาเหตุให้ความสามารถในการเยียวยาของโลแกนหายไป เราเห็นได้จากฉากที่โลแกนถูกยิงในวัด ฉากต่อสู้บนหลังคารถไฟ ที่ดูดุเดือด และทำออกมาได้อารมณ์ดิบพอสมควรครับ ฉากที่วิลยุนลีง้างธนู ที่ดูเหมือนเป็นฮอว์กอายแห่งเอเชีย และฉากที่ไวเปอร์ลอกหนังออกมาก็ทำให้อดสงสัยไม่ได้ว่าเธอมีความสามารถอะไรกันแน่ เป็นตัวอย่างที่ชวนให้ติดตามจริงๆ ครับ

The Wolverine กำกับโดย James Mangold เข้าฉายเดือนกรกฎาคมนี้ครับ ชมคลิปตัวอย่างทั้ง 2 แบบได้ด้านล่าง พร้อมโปสเตอร์หนังครับ



The Wolverine Poster
The Wolverine
The Wolverine
The Wolverine
The Wolverine
The Wolverine
The Wolverine

ที่มา joblo

ตัวอย่างหนัง Pain & Gain ฉบับ RED BAND

ตัวอย่างหนัง Pain & Gain ฉบับ RED BAND

หลังจากทำหนังฟอร์มยักษ์อย่าง Transformers มาครบทั้ง 3 ภาค ผู้กำกับ Michael Bay ก็กลับมาทำหนังทุนต่ำที่เคยสร้างชื่อเสียงให้กับตัวเอง และวันนี้ Pain & Gain หนังอาชญากรรมที่สร้างจากเรื่องจริงก็มีตัวอย่างฉบับ RED BAND ออกมาให้ชมกันแล้วครับ

Pain & Gain เป็นหนังที่สร้างจากเรื่องจริงของกลุ่มนักเพาะกายกลุ่มนึงที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีปล้นทรัพย์และทำร้ายร่างกาย ซึ่งงานนี้ได้ Mark Wahlberg และ Dwayne Johnson มารับบทนำครับ ทั้งนี้สำหรับ Dwayne Johnson(เดอะร็อค) นั้นมีหุ่นล่ำกล้ามโตอยู่แล้วจึงไม่มีปัญหาอะไร ขณะที่ Mark Wahlberg นั้นก็ซุ่มเพาะกายก่อนรับงานจนมีร่างกายที่ดูล่ำบึ้กยิ่งกว่าที่เคยเห็นในหนังเรื่องอื่นที่เค้าเคยเล่นครับ

นอกจากนี้ยังมี Anthony Mackie ที่มาร่วมก๊วนนักเพาะกายหวังรวยทางลัดด้วย และยังมีนักแสดงอีกคับคั่ง ทั้ง Ken Jeong, Tony Shalhoub, Ed Harris, Yolanthe Cabau และเพื่อนเก่านักมวยปล้ำของเดอะร็อคอย่าง Kurt Angle มาร่วมแสดงด้วยครับ

ตัวอย่างฉบับ RED BAND นี้จะมีการพูดจาด้วยคำหยาบคายแบบไม่เซ็นเซอร์ รวมไปถึงฉากที่เต็มไปด้วยความรุนแรง แต่นับว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับหนังเรื่องอื่นๆ ของไมเคิล เบย์ ฉากหมาตัวน้อยวิ่งคาบชิ้นส่วนเปื้อนเลือดของนิ้วใครบางคน ฉากเดอะร็อคกำลังเหวี่ยงฝ่ามือเข้าหากล้อง และปิดท้ายด้วยฉากที่มาร์ค วอห์ลเบิร์ก ยืนด่ากราดใส่เด็กแบบจัดเต็ม ทั้งวอห์ลเบิร์กและเดอะร็อคดูฮาและเข้าขากันดี ดูแล้วได้อารมณ์คล้ายกับ Bad Boys หนังคู่หูที่ทำให้ไมเคิล เบย์ แจ้งเกิดได้ครับ ชมคลิปตัวอย่างหนังได้ด้านล่างครับ คุณต้องมีอายุ 17 ปีขึ้นไปถึงรับชมคลิปได้นะครับ หนังเข้าฉายเมษายนนี้



ตัวอย่างหนัง Pain & Gain ฉบับ RED BAND

ตัวอย่างหนัง Pain & Gain ฉบับ RED BAND

ตัวอย่างหนัง Pain & Gain ฉบับ RED BAND

ตัวอย่างหนัง Pain & Gain ฉบับ RED BAND

ตัวอย่างหนัง Pain & Gain ฉบับ RED BAND

ตัวอย่างหนัง Pain & Gain ฉบับ RED BAND

ที่มา Yahoo! Movies

Review: The Hobbit จุดเริ่มต้นของมหากาพย์แหวนครองพิภพ

Review: The Hobbit

การต่อสู้ การผจญภัย คำพูดปลุกใจ พ่อมด เวทย์มนต์ สัตว์ประหลาด เราเคยสัมผัสหนังแนวนี้กันมาแล้วในอดีต แต่จะไม่มีเรื่องไหนเลยที่ทำให้เราจดจำได้เหมือนกับ The Lord of the Rings ไตรภาค ที่ Peter Jackson ได้สร้างผลงานหนังมหากาพย์ชิ้นนี้มาประดับไว้ในความทรงจำของผู้ชมทั่วโลก ในช่วงปี ค.ศ. 2001-2003 จนถึงครั้งนี้ก็ได้เวลาเล่าถึงจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมดกันแล้ว ใน The Hobbit: An Unexpected Journey


The Hobbit สร้างขึ้นมาจากนิยายของ J. R. R. Tolkien ที่เรียงร้อยเรื่องราวสุดแฟนตาซีไว้ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1937 มีเพียงเล่มเดียว และต่อด้วยเรื่องราวของเดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์ไตรภาค แต่ Peter Jackson สามารถทำให้หนังสือนิยายเล่มเดียวนั้นกลายมาเป็นหนังความยาว 2 ชั่วโมงครึ่งแบบไตรภาคได้อย่างน่าเหลือเชื่อ

หนังเริ่มต้นเล่าถึงเรื่องราวความเป็นมาของเผ่นคนแคระ ซึ่งชำนาญงานช่างและงานเหมือง พวกเค้ามีอาณาจักรที่เต็มไปด้วยทองคำ จนกระทั่งวันนึง มีมังกรไฟ "สม็อก" เข้ามายึดเมือง ทำให้เหล่าคนแคระต้องระเห็ดพลัดถิ่นของตน กระจายไปยังดินแดนต่างๆ โดยหวังว่าซักวันจะได้กลับมาอยู่ในบ้านเกิดอีกครั้ง

หนังเล่าถึงตัวละคร บิลโบ แบ๊กกินส์ สมัยยังหนุ่ม บิลโบคือลุงของโฟรโด ฮอบบิทที่เป็นตัวเอกในเดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์ ซึ่งเรื่องราวในส่วนนี้บิลโบยังไม่เคยเล่าให้ใครฟัง และพยายามเขียนมันเป็นนิยายการผจญภัยของตนเอง บิลโบได้พบกับกานดาล์ฟ พ่อมดสีเทา และเชิญชวนบิลโบไปผจญภัย

Review: The Hobbit

บิลโบ เป็นฮอบบิทที่รักสงบ ตอนแรกก็ไม่ได้ตอบรับการผจญภัยแต่อย่างใด แต่หลังจากการปรากฏตัวของคาราวานคนแคระ ที่นำโดย ธอริน โอเคนชิลด์ ทายาทกษัตริย์คนแคระ ที่นำทุกคนมารวมกัน โดยมีจุดมุ่งหมายที่จะกลับไปยึดบ้านเกิดเมืองนอนคืนมาจากมังกรไฟ หลังจากที่ไม่มีข่าวคราวว่าใครพบเห็นมังกรไฟมานานกว่า 60 ปี บิลโบจึงอยากเข้าร่วมการผจญภัยด้วย แม้ว่าธอรินจะมองว่าบิลโบไม่พร้อมจะรับมือกับภัยอันตรายต่างๆ ได้

แต่เมื่อถึงเวลาผจญภัยจริงๆ บิลโบ ถึงแม้ว่าจะต่อสู้ไม่เป็น แต่บิลโบมีไหวพริบ และมีโชคช่วยอยู่เสมอ ซึ่งจุดนี้เองที่ทำให้กานดาล์ฟดึงบิลโบมาร่วมทีม และการผจญภัยของก๊วนคนแคระกับ 1 พ่อมดและ 1 ฮอบบิทก็เริ่มต้นขึ้น

Review: The Hobbit

The Hobbit: An Unexpected Journey จะเดินเรื่องได้ค่อนข้างช้าเมื่อเทียบกับ The Lord of the Rings ฉากต่อสู้น้อยกว่า มีฉากการสื่อสารกันระหว่างตัวละครมากกว่า เพราะต้องการสื่อให้รู้ถึงเรื่องราวความเป็นมาทั้งหมด แนะนำตัวคนแคระแต่ละคน และมีปมให้คิดมากกว่าใน LOTR เช่น ทำไมเอลฟ์ที่นำโดยธรันดิลไม่ยอมช่วยเผ่าคนแคระ ทำไมจึงมีเนโครแมนเซอร์อยู่ในปราสาทโดลกุลดูร์(และมันเป็นใคร) ทำไมซารูมาน ซึ่งเป็นผู้นำของเหล่าพ่อมด ถึงได้พยายามหลีกเลี่ยงคำถามเกี่ยวกับดาบแห่งมอร์กุล หรือแม้แต่ว่าทำไมกาลาเดรียลถึงเรียกกานดาล์ฟว่า "มิทธรันเดียร์" และมีแววตาที่มองดูกานดาล์ฟเกินกว่าจะเป็นแค่เพื่อน ทำให้ช่วง 1 ชั่วโมงแรก รู้สึกเฉื่อยจนบางทีก็เกือบง่วง แต่ก็มีฉากเจอสัตว์ประหลาดและฉากต่อสู้สลับกันบ้างเพื่อไม่ให้น่าเบื่อจนเกินไป ผมคิดว่าภาคต่อไปจะมีฉากต่อสู้ที่มากกว่านี้เพราะได้เกริ่นนำทุกอย่างไว้ในภาคนี้แล้ว นอกจากนี้โลเกชั่นที่ใช้ถ่ายทำก็มีโทนที่เข้ากับอารมณ์ของหนัง งาน CG สมจริงดี คงไม่ต้องบอกอะไรมาก เทคนิค Motion Capture ของพี่แอนดี้ เซอร์กีส ในการเล่นเป็นกอลลัม ยังคงมีมนต์ขลังอยู่เสมอ

ความยิ่งใหญ่ของฉากต่อสู้เป็นอีกจุดเด่นของหนัง ที่ภาคนี้ได้สร้างฉากรังของเผ่าก๊อบบลิ้นไว้ในภูเขาที่เผ่าคนแคระและบิลโบตกลงไป ก่อนที่ต่อมาบิลโบจะได้เจอกับกอลลัม และได้พบกับ "ของรัก" ส่วนเหล่าคนแคระก็ได้รับความช่วยเหลือจากกานดาล์ฟ และการต่อสู้ระหว่างคนแคระกับเผ่าก๊อบบลิ้นก็เริ่มขึ้น มันไม่ใช่ฉากที่เราจะเห็นการต่อสู้กับแบบสูสี แต่จะเป็นการรุมกินโต๊ะของกอบบลิ้นซึ่งมีกำลังมากกว่านับพัน ต่อคนแคระแค่สิบกว่าคน

อย่างไรก็ตามข้อเสียของหนังเรื่องนี้คือคนแคระไม่ได้โดดเด่นหรือบ่งบอกว่าใครมีของดีอะไร นอกเหนือจากธอริน(ผู้นำกลุ่ม) บาลิน(มือขวาของธอริน) และพี่น้องคีลี่กับฟีลี่(คีลี่จะใช้ธนูเป็นอาวุธ ส่วนฟีลี่จะถูกใช้ให้สังเกตการณ์บ่อยๆ) แต่ผมคิดว่าน่าจะเผยให้เห็นความสามารถของแต่ละคนในภาคต่อๆ ไป

Review: The Hobbit

สำหรับฉากที่จ่าจดจำคือการดวลปัญญาตอบปัญหาเชาว์ระหว่างบิลโบกับกอลลัม ซึ่งกอลลัมหวังจะกินบิลโบถ้าหากบิลโบแพ้ ส่วนบิลโบหวังจะได้ออกไปจากที่นี่ บิลโบจึงต้องใช้หัวคิดและไหวพริบให้มากเพื่อต่อกรกับกอลลัมที่ทั้งเจ้าเล่ห์และหิวกระหาย ใครจะอยู่ใครจะไปต้องไปติดตามดูกันเอาเอง เรื่องนี้สนุกครับสำหรับใครที่ชอบ LOTR จะยิ่งชอบครับ ใครยังไม่ได้ดู ก็ไปหาเช่ามาดูได้เลยครับ รับรองสนุกแน่

Copyright Notice

Copyright © 2014 FilmsInbound

All rights reserved.

Powered by Blogger

Super SEO created by Blogger Tuts

Published by GalleryBloggerTemplates.com