แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Crime แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Crime แสดงบทความทั้งหมด

Review: Now You See Me อาชญากลปล้นโลก

Review: Now You See Me

หนังปล้นสะท้านโลกของผู้กำกับหลุยส์ เลเตอเรียร์ ที่ทำตัวอย่างหนังออกมาน่าดูชมและน่าสนใจมาก กับการใช้มายากลขั้นเทพในการหลอกตาคนดู และนำไปสู่การปล้นครั้งใหญ่ ที่พอเราได้ดูตัวอย่างหนังแล้วต้องอึ้ง ทำให้ผมคาดหวังกับหนังเรื่องนีไว้สูงมาก หลังจากที่เคยดูหนังมายากลอย่าง The Prestige ที่ทำให้ผมต้องอ้าปากค้างแล้วค้างอีก จึงคิดว่า Now You See Me น่าจะทำให้ผมต้องอ้าปากค้างได้อีกครั้ง


หนังเรื่องใหม่ของผู้ให้กำเนิดแฟรนไชส์หนังดังอย่าง Transporter ที่โปรโมตหนังได้อย่างน่าสนใจเอามากๆ ที่ใช้การแสดงมายากลมาเป็นตัวชูโรง ซึ่งเป็นฉากบังหน้าสำหรับการปล้นครั้งใหญ่ หนังเรื่องนี้ได้ตัวนักมายากลระดับโลกตัวจริงอย่าง เดวิด คอปเปอร์ฟิลด์ มาเป็นที่ปรึกษา ขณะที่นักแสดงนำทุกคนที่เล่นเป็นนักมายากล "จตุรอาชา" เจสซี่ ไอเซนเบิร์ก ที่ดูจะเป็นดาราชูโรงของหนังเรื่องนี้ แต่การแสดงที่น่าประทับใจของเค้ามีเพียงฉากที่อยู่ในห้องสอบสวน และการลวงเอาข้อมูลเท่านั้น ขณะที่วู้ดดี้ ฮาร์เรลสัน ซึ่งเป็นนักมายาจิต ดูจะประสบความสำเร็จที่สุดในการเข้าถึงตัวละครที่ถนัดการสะกดจิตคนดู และสามารถสร้างความอึ้ง ทึ่ง ให้เราได้ทุกครั้งที่เค้าร่ายมนต์สะกด ส่วนอิสล่า ฟิชเชอร์ก็ดูสวยและดึงดูดความสนใจได้ดี ถ้ามีผู้ช่วยนักมายากลสวยๆ แบบนี้จะเบนความสนใจได้แน่นอนครับ สุดท้ายคือเดฟ ฟรังโก้ ต้องบอกว่าซีนการต่อสู้ด้วยมายากลเป็นอะไรที่น่าตื่นเต้นที่สุดในเรื่องแล้ว และผมรู้สึกว่ามันตื่นเต้นยิ่งกว่าฉากแสดงมายากลทั้งหมดของเหล่า "จตุรอาชา" ซะอีก ส่วนนักแสดงคนอื่นๆ อย่างมาร์ค รัฟฟาโล ก็เป็นตัวสำคัญที่ทำให้มายากลของเหล่าอาชาดูเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่และเหนือชั้น ส่วนเมลานี่ โลรองต์ เป็นสาวฝรั่งเศสที่มีเสน่ห์มากๆ จนเราตกหลุมพรางของหนังไปได้อย่างง่ายดาย มอร์แกน ฟรีแมน นักแบไต๋มายากลที่รอบรู้และพร้อมเปิดเผยเคล็ดของนักมายากลทุกคน ไมเคิล เคน ก็สลัดคราบของอัลเฟรดไปได้หมด กลายเป็นนายทุนโลภมากไปได้อย่างสมบทบาท

หนังเดินเรื่องได้เร็ว พยายามเล่าถึงความเป็นมาของนักมายากลและพวกแบไต๋มายากล มีการสร้างฉากสำหรับมายากลที่เอาไว้หลอกคนดูหลายฉาก ทั้งนี้เพราะปกติการแสดงมายากลที่น่าตื่นเต้น ทำให้คนต้องคอยจับตาดูอย่างใกล้ชิด โดยคิดว่าจะเผยไต๋ของมายากลนั้นได้ หนังเรื่องนี้ก็เช่นเดียวกัน มันหลอกเราๆ ท่านๆ มาตั้งแต่โปสเตอร์หนังแล้วครับ แม้ว่าจะใช้เหล่านักมายากลจตุรอาชาเป็นชูโรง ตัวเดินเรื่อง แต่จริงๆ หนังเดินเรื่องด้วยตัวละครที่เราคาดไม่ถึง และทุกคนที่ดูหนังจะถูกหลอกโดยไม่รู้ตัวครับ หนังจะให้เราดูมายากลแต่ละอัน และเฉลยให้เราดูทีละอัน ก่อนที่จะเฉลยปมเรื่องทั้งหมดช่วงท้ายเรื่อง ที่ทำให้เราได้อึ้งครับ แต่น่าเสียดายที่ความสนุกของมันไม่สุด ไม่สุดจริงๆ หนังเรื่องนี้มีองค์ประกอบที่ดี แต่มันควรจะรู้สึกสนุกมากกว่านี้ มันรู้สึกไม่อิ่ม กินอร่อยแต่ไม่อิ่ม พอจบเรื่องแล้วก็ไม่รู้สึกว่าประทับใจ หรือว่าผมจะตั้งความหวังไว้สูงเกินไป แต่โดยรวมแล้วหนังทำได้ตามคำลวงของหนังที่ว่า
"Look closely, because the closer you think you are the less you'll actually see."
"จงมองดูอย่างใกล้ชิด เพราะยิ่งใกล้มากขึ้นเท่าไหร่ ยิ่งมองไม่เห็นความจริงมากเท่านั้น" แน่นอนครับ ตัวอย่างหนังหลอกว่าน่าสนุกที่สุด แต่เอาเข้าจริงไม่สนุกอย่างที่ผมหวังไว้ แต่อย่างไรก็ตามหลุยส์ เลเตอเรียร์ก็หลอกคนดูได้สำเร็จครับ 7/10 ครับสำหรับเรื่องนี้

Review: Gangster Squad (2013) แก๊งกุดหัวเจ้าพ่อ

Review: Gangster Squad (2013)

ผลงานหนังอาชญากรรมย้อนยุคของผู้กำกับ Ruben Fleischer ที่เนรมิตนครลอสแองเจลิสยุคหลังสงครามโลกครั้งที่สองออกมาได้อย่างสมจริง กับปฏิบัติการโค่นเจ้าพ่อที่ใช้เค้าโครงจากเรื่องจริงในการโค่นอำนาจของมิคกี้ โคเฮน เจ้าพ่อมาเฟียผู้เรืองอำนาจในยุคนั้น โคเฮน อดีตอันธพาลที่อาศัยการชกมวยเลี้ยงชีพ จนกระทั่งมีเงินและชื่อเสียง และนำเงินมาสร้างธุรกิจนอกกฎหมายทุกอย่าง และยาเสพติด กว้านซื้อตำรวจ นักการเมือง ผู้พิพากษา ทำให้มีอำนาจและเครือข่ายช่วยเหลือเค้ามากมาย แต่ก็มีตำรวจกลุ่มนึงที่ถูกตั้งทีมขึ้นมาเพื่อต่อกรกับอำนาจมืดของโคเฮนแบบตาต่อตา ฟันต่อฟัน


Gangster Squad ไม่ได้มีปฏิบัติการล่าล้างเจ้าพ่อโคเฮนเท่านั้น แต่ยังสอดแทรกชีวิตของตำรวจเข้าไปให้เราชมด้วย กลุ่มตำรวจทีมโค่นเจ้าพ่อที่มาจากต่างสถานที่ ต่างวัย ต่างเชื้อชาติ ดูเผินๆ แล้วทั้งทีมไม่มีอะไรเหมือนกัน แต่สิ่งที่ทุกคนมีเหมือนกันคือจะไม่ยอมให้ใครมามีอำนาจเหนือกฎหมาย แม้ว่าจะต้องใช้วิธีเหนือกฎหมายในการจัดการก็ตาม เพราะทุกคนตระหนักดีว่าครอบครัวและคนที่เค้ารักจะตกอยู่ในอันตรายถ้าในเมืองยังคงเต็มไปด้วยอาชญากรเรืองอำนาจ และทุกคนต้องเสียสละเวลาในชีวิตเพื่อภารกิจระห่ำนี้ ไม่ว่าจะเป็นเวลาให้กับครอบครัว ลูก เมีย เพื่อน หรือเวลาสำหรับการพักผ่อนหย่อนใจ เพราะเมื่อรับภารกิจ ก็เหมือนชีวิตแขวนอยู่บนเส้นด้าย

Review: Gangster Squad (2013)

หนังใช้ตัวละคร จ่าจอห์น โอมาร่า อดีตทหารผ่านศึกในสงครามโลกครั้งที่สองที่เพิ่งจบไป เป็นตำรวจตงฉินที่เงินซื้อไม่ได้ ทำให้เข้าตาสารวัตรบิล ปาร์คเกอร์ และสนับสนุนให้เค้าตั้งทีมตำรวจระห่ำโค่นเจ้าพ่อโคเฮน โอมาร่าจึงเฟ้นหาตำรวจตงฉินฝีมือดีและเงินซื้อไม่ได้มาเข้าทีม และปฏิบัติการระห่ำล้างบางเจ้าพ่อจึงเริ่มขึ้น

Review: Gangster Squad (2013)

งานของโอมาร่าและทีม ไม่ใช่การบุกเข้าไปยิงโคเฮนให้มันจบๆ ไป พวกเค้าทำสิ่งที่เรียกว่าการทำลายมะเร็งของสังคม บุกไปทำลายธุรกิจนอกกฎหมายทุกแห่งของโคเฮน ดักปล้นยาเสพติดที่เพิ่งนำเข้ามา เพื่อตัดตอนสิ่งที่กัดกินสังคมจนเน่าเฟะ แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ที่ตำรวจกลุ่มนึงจะต้องต่อกรกับองค์กรอาชญากรทั้งเมือง แถมยังมีเส้นสายในวงการตำรวจและผู้พิพากษาอีกด้วย

Review: Gangster Squad (2013)

หนังเรื่องนี้ต้องขอชมเรื่องเสื้อผ้าหน้าผม ที่ดูเข้ากับยุค 50 ฉากและบรรยากาศที่ให้อารมณ์เหมือนย้อนไปในยุคที่ลอสแองเจลิสกำลังเจริญทางด้านอุตสาหกรรมบันเทิง ด้านนักแสดงผมยอมรับว่าจอช โบรลิน เล่นหนังเครียดๆ ได้ดี หน้าเครียดๆ ของแกมันดูเครียด จริงจัง ขึงขังน่าเกรงขามจริงๆ ไรอัน กอสลิ่ง ยังคงเป็นนักแสดงมาดเซอสุดเท่ในสายตาผม แน่นอนว่าเรื่องนี้ได้เห็นเค้ากลับมาใส่สูทผูกไท้ก็เท่ได้ใจกันไป ฌอน เพนน์ ไม่ต้องสาธยายถึงฝีมือการแสดงของพี่เลย ช่างเป็นเจ้าพ่อที่เหี้ยมเกรียมจริงๆ ไอ้รอยยิ้มที่ดูเหมือนให้ความหวังก่อนจะดับหวังใครต่อใครมันช่างดูโหดร้ายซะเหลือเกิน เอ็มม่า สโตน เรื่องนี้เธอดูสวยที่สุด หยดย้อยที่สุดเท่าที่เคยดูหนังของเธอมาทุกเรื่องเลยครับ หลงรักเลยล่ะ ฮิฮิ

Review: Gangster Squad (2013)

Gangster Squad เป็นหนังที่สนุกแบบเรื่อยๆ ไม่เอื่อยจนน่าเบื่อ เดินเรื่องเร็ว แถมยังมีฉากสะเทือนอารมณ์อยู่บ้าง บางฉากก็เลือดสาดพอสมควร ไม่ได้บู๊ทะลุแบบระเบิดภูเขาเผาตึก แถมยังได้ยลโฉมสาวสวยอย่างเอ็มม่า สโตน แบบเต็มตา หามาดูเถอะครับ

Review: Parker (2013) ปล้นมหากาฬ

Review: Parker (2013)

หนังอาชญากรรมทริลเลอร์ Parker ดัดแปลงจากบทที่ 19 ตอน Flashfire ในนิยายขายดีชื่อเดียวกับหนัง ผลงานของ โดนัลด์ เวสท์เลค (นามปากกา คือ ริชาร์ด สตาร์ก) กับเรื่องราวของการล่าล้างแค้นในหมู่โจรปล้นทรัพย์ ดัดแปลงมาเป็นบทหนังโดย จอห์น แมคลัฟลิน กำกับโดย เทย์เลอร์ แฮคฟอร์ด และได้สองนักแสดงชั้นนำอย่างเจสัน สแตทแธม และเจนนิเฟอร์ โลเปซ มารับบทนำของเรื่อง


Review: Parker (2013)

เรื่องนี้ต้องบอกว่ามีดีและมีเสียปนกันไปอย่างละครึ่งๆ ครับ เรื่องดีคือการแสดงของเจสัน สแตทแธม ที่เรื่องนี้มีบทพูดเยอะกว่าการบู๊ ฉากที่พูดเพื่อปลอบประโลมนั้นช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดได้จริงๆ คือทำให้รู้สึกตามตัวละครที่กำลังตกอยู่ในสภาวะกดดันนั้นผ่อนคลาย ผมดูแล้วก็รู้สึกผ่อนคลายไปด้วย หลังจากนั้นเราจะได้เห็นพ่อยอดนักบู๊ของเราถูกหักหลังและเฉียดตาย(แบบไม่น่าเชื่อ) และกลับมาตามล่าล้างแค้นได้อย่างสะใจ เรื่องดีอีกเรื่องคือบทบาทของเลสลี่ ที่รับบทโดยเจนนิเฟอร์ โลเปซ ที่ทำให้ผมนึกถึงเธอในเรื่อง Out of Sight หนังเก่าเมื่อปี 1998 แม้ว่าเธอจะอายุมากแล้วแต่ก็ยังดูสวย และเซ็กซี่ไม่สร่าง อ้อ ใครเคยดูตัวอย่างหนังจะรู้ว่ามีฉากที่ได้โชว์เรือนร่างเฟิร์มๆ ของเธอด้วยนะครับ...ฟิน นอกเรื่องไปมาก กลับมาที่รีวิวหนัง เธอเล่นบทของหญิงหม้ายหย่ากับสามีและต้องใช้ชีวิตที่เหลืออย่างลำบาก ไหนจะค่าใช้จ่ายที่สูง ต้องเลี้ยงดูแม่ที่ขี้บ่นจุกจิก ต้องทนเลี้ยงหมาที่ไม่ชอบ น้องสาวที่เลิกคบกับเธอไปแล้ว ทำงานต้องพบกับพวกชอบแต๊ะอั๋งล่วงเกินเธอ มันเป็นความอัดอั้นตันใจของผู้หญิงที่แสดงออกมาอย่างชัดเจน จนเธอมาพบกับปาร์คเกอร์ และคิดว่าเค้านี่แหละที่จะช่วยให้เธอพ้นจากสภาพนี้ได้ โดยมีข้อเสนอระหว่างกัน

Review: Parker (2013)

ข้อเสียของหนังก็คือข้อเสนอของพระเอกกับนางเอกของเรานี่แหละครับ คือมันดูเป็นหนังมากไปหน่อยที่พระเอกซึ่งเป็นโจรมืออาชีพ จะให้ส่วนแบ่งกับผู้ช่วยแบบนั้น ถ้าเป็นของจริงผมว่าต้องเชิดเงินหนีไปสบายใจเฉิบแล้วล่ะ อีกอย่างที่สำคัญคือตอนแรกเริ่มที่โดนหักหลังครับ ร้อยทั้งร้อยต้องตายแล้วล่ะ แต่หนังยังไงก็คือหนัง พระเอกจะไม่ตายง่ายๆ ครับ และพระเอก เป็นคนดีเกินไปครับ เกินคำว่าโจรไปมากเลย

Review: Parker (2013)

โดยสรุปแล้ว Parker ก็เป็นหนังทริลเลอร์ที่พอดูได้ มันจะไม่ใช่หนังบู๊แบบที่คุณเคยเห็นเจสันเล่นมาก่อน แต่สำหรับผมได้เห็นร่างงามๆ ของเจนนิเฟอร์ โลเปซ อีกครั้ง ก็ฟินแล้ว เช่ามาดูก็พอครับ

Review: The Thieves "Ocean's Eleven รสกิมจิ" เหล้ากลิ่นใหม่ในขวดใบเก่า

The Thieves

หนังดังจากแดนกิมจิ The Thieves หรือในชื่อไทยว่า 10 ดาวโจร ปล้นโคตรเพชร นับเป็นหนังที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาลของเกาหลี ทำลายสถิติเดิมจากหนังอสุรกาย The Host ที่เป็นเจ้าของสถิติเก่าอยู่นานถึง 6 ปี หลังจากทำรายได้ไปมากกว่า 9 หมื่นกว่าล้านวอน (ประมาณสองพันหกร้อยกว่าล้านบาท) หนังมันมีดีอะไร ไปดูกันครับ


ว่าด้วยเรื่องของกลุ่มโจรปล้นทรัพย์ 2 กลุ่มที่ได้รับการติดต่อจาก "มาเก๊า ปาร์ค" อดีตโจรย่องเบามืออาชีพที่ห่างหายจากวงการไปนาน ครั้งนี้เค้ากลับมาพร้อมข้อเสนอสำหรับการปล้นเพชรเม็ดงามหลายกะรัตที่มีชื่อว่า Tear of the Sun ซึ่งเป็นของสะสมของเศรษฐินีคนนึง ด้วยนิสัยของโจรย่อมไม่ไว้ใจใครง่ายๆ ทั้งคู่เขม่นกันตั้งแต่แรกเจอ นอกจากนี้โจรฝั่งเกาหลีก็ขอเพิ่มสมาชิกอีก 1 คนที่ทำให้มาเก๊า ปาร์ค ต้องสะอึก เพราะเธอคือเป๊ปซี่ อดีตคนรักเก่าซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญการถอดสลักตู้เซฟ เค้าและเธอเคยมีเรื่องหมางใจกันมาก่อน เพราะงานล่าสุดเมื่อ 4 ปีก่อนหน้านี้ ระหว่างการโจรกรรมทองจำนวน 64 กิโลกรัม เกิดความผิดพลาด สลิงห้อยตัวของมาเก๊าขาด ทำให้เค้าร่วงลงไปในช่องลิฟต์ สัญญาณเตือนภัยดัง และมาเก๊าก็หายตัวไปพร้อมกับทอง ปล่อยให้เป๊ปซี่ ต้องอยู่กับเพื่อนร่วมแก๊งค์อย่างป๊อปอาย ที่แอบรักเธอมานาน จากนั้นพวกเค้าก็วางแผนกันเพื่อเข้าสู่กระบวนการปล้น ซึ่งต้องเข้าไปในโรงแรมหรู โดยแผนวางไว้ว่าต้องปลอมตัวเข้าไปในฐานะแขกที่มาพัก และร่วมเล่นไพ่กับเศรษฐินีคนดังกล่าว จากนั้นจะใช้ลุงคนนึงที่มาเก๊าบอกว่าเป็นสาย ช่วยนำปืนเข้าไปใช้ในโรงแรม และคนอื่นๆ ก็ประจำที่ของตนเอง ทั้งห้องควบคุมของหน่วยรักษาความปลอดภัย ห้องเล่นไพ่ ห้องพักของเศรษฐินี เมื่อทุกอย่างพร้อมจะปิดไฟ ทีมที่อยู่ในห้องพักจะทำการเปิดเซฟ และนำเพชรออกมา ทีมเล่นไพ่จะเล่นไพ่กับเหยื่อตบตาไปเรื่อย ส่วนทีมยึดห้องควบคุมจะคอยถ่วงเวลาให้จนกว่าจะได้เพชร เมื่อได้เพชรมาแล้วก็จะแยกย้ายกันหนี

The Thieves

แต่นั่นเป็นเพียงแผน เมื่อจริงๆ แล้วคนที่รู้ว่าเพชรจริงซ่อนอยู่ที่ไหนคือมาเก๊า ปาร์ค ที่ปลอมเป็นลุงคนส่งปืน เมื่อเค้าได้เพชรไปอย่างแยบยลแล้วก็จะหนี ปล่อยให้ 2 กลุ่มโจรต้องเผชิญหน้ากับตำรวจที่กำลังมาจับ จนทำให้โจรตายฝั่งละ 1 ส่วนเป๊ปซี่ก็เกือบจะไม่รดจากรถจมน้ำ แต่ก็ได้มาเก๊า ปาร์ค ช่วยไว้ทัน

The Thieves

หนังพาเรามายังจุดที่ให้เราเห็นว่ามาเก๊า ปาร์ค ก็คือโจรดีๆ นี่เอง ที่ไม่สามารถไว้ใจได้ แถมยังหักหลังกลุ่มตนเองเพื่อชิงเพชรไปคนเดียวอีกต่างหาก คงจะเอาไปขายสบายแฮ ส่วนพวกที่เหลือก็ต้องหนีการจับกุมแบบหัวซุกหัวซุน แต่มันไม่ใช่แบบนั้นครับ กลุ่มที่เหลือรอดรวมตัวกันเพื่อล้างแค้นมาเก๊า ปาร์ค ส่วนตัวมาเก๊า ปาร์ค ก็จะใช้เพชรที่ได้มาในการล้างแค้น!! เค้าจะล้างแค้นอะไร จุดนี้เองที่แตกต่างจาก Ocean's Eleven ที่ดูเหมือนจะเป็นต้นแบบสำหรับหนังเรื่องนี้ แต่ก็ไม่ใช่ซะทีเดียวครับ ผู้กำกับชอยดองฮุน เลือกที่จะใส่ความเป็นหนังเกาหลีเข้าไป นั่นคือ การก่อปมเล็กๆ ให้เห็นว่ามาเก๊า ปาร์ค ไม่ได้เป็นโจรที่เลวร้าย แต่เป็นโจรโดยสันดาร เค้าไม่ได้ถูกสังคมบังคับให้เค้าเป็นโจร แต่เค้าเลือกเองที่จะเป็นโจร หนังเฉลยให้เราเห็นว่าพ่อของเค้าซึ่งเป็นโจร ถูกมาเฟียขาใหญ่รายนึงฆ่าตาย ในห้องที่ปัจจุบันเค้าซ่อนเพชร Tear of the Sun เอาไว้นั่นเอง นั่นคือแผนการที่วางไว้อย่างเหนือความคาดหมาย

The Thieves

นอกจากนี้เหตุที่ทำให้เค้าร่วงลงไปในช่องลิฟต์ระหว่างการโจรกรรมทอง 64 กิโลกรัม เป็นเพราะเพื่อนร่วมทีม ป๊อปอาย ที่ใช้เลื่อยหั่นสลิงเอาไว้จนเป็นแผล แถมหลังจากเกิดเรื่องแล้วยังพยายามแย่งเป๊ปซี่คนรักของมาเก๊าไปเป็นของตนอีก ทำให้เป๊ปซี่ต้องเข้าใจผิดในตัวมาเก๊า ปาร์ค อยู่นานหลายปี จนมารู้ความจริงก็ตอนที่ตนเองมาเจอเพชร Tear of the Sun ในห้องที่มาเก๊าจัดฉากเตรียมไว้สำหรับการล้างแค้นนั่นเอง เห็นมั้ยครับว่าจริงๆ แล้วหนังเรื่องนี้ก็มีอะไรที่แตกต่างจาก Ocean's Eleven อยู่เยอะทีเดียว นอกจากจะเป็นหนังโจรกรรมคอมเมดี้แล้วยังให้อารมณ์หวานแหววแบบยัยตัวร้าย(แหงล่ะ ก็จวนจีฮุนเล่นเป็นยัยตัวแสบของเรื่องนี้ด้วย)ในฉากที่จำปาโน่(คิมซูฮยอน)ตะโกนบอกรักเยนิคอล(จวนจีฮุน) ที่จำปาโน่แอบรักข้างเดียวมานาน ก่อนจะโดนตำรวจจับ ต่อด้วยอารมณ์หดหู่ ในฉากที่อาเฉิน(เยิ่นต๊ะหัว) ที่เพิ่งพบรักกับชิววิ่งกัม(คิมเฮซุก) ถูกตำรวจไล่ยิงจนในที่สุดก็ตายทั้งคู่ ต่อด้วยอารมณ์เครียดของหนังในฉากที่มาเก๊า ปาร์คเล่าความจริงทุกอย่างในเหตุปล้นทอง และกลับไปเจอเพื่อนรักของตนกำลังหักเหลี่ยมด้วยการมีเลิฟซีนร้อนแรงกับหญิงคนรักของตน และหลังจากนั้นก็เป็นอารมณ์ลุ้นระทึกตลอดเวลา หลังจากที่กลุ่มมาเฟียพยายามไล่ฆ่ามาเก๊า ปาร์ค ที่กำลังไต่ระเบียงหนี และยังปิดท้ายแบบหักมุมครั้งแรกด้วยว่าใครเป็นคนได้เพชรของจริงไป จากนั้นก่อนจบเรื่อง หนังยังหลอกให้เราเห็นว่ามาเก๊า ปาร์ค แอบมาง้อเป๊ปซี่ ด้วยการทิ้งทองคำที่เคยโจรกรรมมา ไว้ในกระโปรงท้ายรถ ก่อนจะจบเรื่องได้แบบหักมุมเข้าไปอีก เรียกได้ว่าครบทุกรสชาติสำหรับหนังเรื่องนี้ครับ

The Thieves

แม้ว่าจะมีจุดอ่อนบ้าง เช่น ฉากโดดระเบียงยังดูออกว่าใช้สลิงช่วย และตัวลุงที่ปลอมตัวโดยมาเก๊า ปาร์ค ดูออกง่ายไป หรือแนวทางการปล้นมันดูคุ้นเคยมาแล้วจากหนังดังเรื่องอื่นๆ แต่จุดเด่นในหนังด้านอื่นๆ ก็มาหักลบกันได้ ทั้งด้านตัวนักแสดงที่เป็นนักแสดงที่เล่นได้สมบทบาท ถ้าใครคิดถึงยัยตัวร้ายอย่างจวนจีฮุน เรื่องนี้เราได้เห็นเลยว่าเธอเป็นยัยตัวแสบ เปรี้ยวซ่า น่ารัก คิมยุนซอกก็เป็นจอมโจรมาเก๊า ปาร์ค ได้อย่างแนบเนียน ที่ไม่เดาได้เลยว่ากำลังคิดอะไร คิมเฮซูในบทของเป๊ปซี่ นักถอดสลักสาวใหญ่สวยเซ็กซี่ที่สับสนในความรู้สึกของตนเองต่อมาเก๊า ปาร์ค ลีจุงแจในบทของป๊อปอาย โจรที่หักหลังเพื่อนและพยายามแย่งคนรักของเพื่อน และมาดของเยิ่นต๊ะหัวระหว่างการดวลปืนกับตำรวจที่ทำให้ผมนึกถึงหนังฮ่องกงในยุค 80 ทั้งหมดนี้จึงทำให้หนังเรื่องนี้ดังพลุแตกในเกาหลีใต้ แต่ในเมืองไทย ผมคิดว่าคนไทยติดภาพของหนังเกาหลีสมัยที่ยังเป็นหนังรักโรแมนติกแบบยัยตัวร้ายฯ จึงไม่ค่อยมีกระแสตอบรับที่ดีกับแนวอื่นๆ ของหนังเกาหลี ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้ว ถ้าเราไม่ไปยึดติดกับอะไร หนังเรื่องนี้ก็สนุกดีไม่แพ้หนังฮอลลีวู้ดเลยครับ สำหรับผมเองได้เห็นจวนจีฮุนและคิมเฮซูในเรื่องเดียวกันก็คุ้มแล้ว ^ ^"

Copyright Notice

Copyright © 2014 FilmsInbound

All rights reserved.

Powered by Blogger

Super SEO created by Blogger Tuts

Published by GalleryBloggerTemplates.com