Review: The Wolverine (2013)

ตัวอย่างหนัง The Hunger Games: Catching Fire

เทรนด์หนังซุเปอร์ฮีโร่กำลังมาแรงในยุคนี้ ทำให้เรามีโอกาสได้ชมกรงเล็บสะท้านโลกันตร์อีกครั้ง หนึ่งในซุเปอร์ฮีโร่ที่แข็งแกร่งที่สุดของ X-Men นั่นคือวูล์ฟเวอรีน เจ้าของกรงเล็บอะดาแมนเที่ยม โลหะผสมที่แข็งแกร่งที่สุด ร่างกายกำยำล่ำสัน ดุร้ายไม่ต่างจากหมาป่า มีร่างกายที่สามารถฟื้นฟูบาดแผลได้อย่างรวดเร็ว และเป็นอมตะ ผมเคยสงสัยว่าแล้วใครมันจะมาสู้ได้ฟะ เก่งเวอร์ซะขนาดนี้ แต่ใน The Wolverine ทำให้เราได้เห็นแล้วว่าความไม่จีรังยั่งยืนเกิดขึ้นได้กับทุกสรรพสิ่ง......ไม่เว้นแม้แต่วูล์ฟเวอรีน


The Wolverine ภาคนี้มีเนื้อเรื่องต่อจากเหตุการณ์ใน X-Men: The Last Stand แน่นอนครับเพราะโลแกน หรือพี่วูล์ฟเวอรีนของเรายังคงนอนฝันร้ายถึงจีน เกรย์ สาวคนรักเก่าที่ตายไปแล้ว เรามักจะได้เห็นโลแกนนอนฝันร้ายอยู่ทุกภาคครับ เพราะอยู่มานานกว่าร้อยปีแล้ว ความทรงจำที่ฝังลึกทำให้เกิดฝัน และตนเองเป็นอมตะนั่นเองจึงได้เห็นแต่เพื่อนรอบข้างตายไป ผมว่ามันคือความทรมานมากๆ ถ้าหากไม่ได้เป็นเองก็คงไม่เข้าใจ เพราะมันเหมือนเป็นเดจาวู เหตุการณ์เดิมๆ ที่โลแกนไม่อยากให้มันเกิดมันก็เกิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า และไม่สามารถหยุดมันได้ มันแน่นอก แต่ยกไม่ออก จนกระทั่งวันนึงมีสาวญี่ปุ่นมาพร้อมกับดาบซามูไร พาโลแกนไปพบกับเจ้านาย ผู้ซึ่งโลแกนเคยช่วยเหลือไว้ในอดีต ยาชิดะที่กำลังจะตายเพราะอายุไขใกล้จะหมด แต่ยังคงไม่ปลงไม่ละสังขารที่ไม่เที่ยง เห็นความอมตะเป็นสิ่งที่หอมหวานและอยากลิ้มลอง เพื่อจะได้อยู่ปกป้องอาณาจักรธุรกิจที่ตนเองสร้างไว้ อยากให้โลแกนยอมมอบพลังอมตะให้ ปลดปล่อยความทุกข์ทรมานที่โลแกนพบมาตลอดชีวิต โดยความช่วยเหลือของ ดร.กรีน สาวสวยที่มีเลศนัยแอบแฝง

โดยรวมแล้วภาคนี้โอเคสำหรับผมครับ หนังดูสนุกตื่นเต้น ดูเอาเพลินได้ถ้าไม่คิดอะไรมาก เราจะได้เห็นโลแกนในสภาพที่ไม่ต่างจากมนุษย์ธรรมดา มีบาดแผลมีการบาดเจ็บที่จะไม่เยียวยาฟื้นฟูได้เร็วอีกต่อไป ทำให้ดูตื่นเต้นว่าโลแกนอาจจะตายเมื่อไหร่ก็ได้ถ้ายังคงบู๊ตะลุยแนวหัวหอกทะลวงฟันเหมือนภาคก่อนๆ สิ่งนึงที่ประทับใจคือฉากต่อสู้ไล่ล่าตั้งแต่ในงานศพจนไปถึงบนรถไฟฟ้าหัวกระสุนครับ ตื่นเต้นดี เป็นช่วงที่สนุกที่สุดของหนังก็ว่าได้ อีกอย่างที่ต้องยกนิ้วให้เลยคือนางเอกสวยครับ (^ ^") มาริโกะหลานสาวของยาชิดะ ผู้ซึ่งเคยเป็นแชมป์ปามีดของหมู่บ้าน ตกเป็นเป้าหมายของแก๊งค์ยากูซ่า โลแกนจึงโดดเข้ามาปกป้องเธอจนเกือบจะตายแทน(เพราะโดนกระสุนปืนไปหลายนัด) และฉากที่ทำให้เราได้ขำและผ่อนคลายเล็กน้อยอย่างในโรงแรมก็เป็นส่วนนึงที่ไม่ทำให้หนังดูเครียดเกินไป

ข้อเสียของหนังก็คือพี่วูล์ฟเวอรีนของเราก็ไม่กลัวเกรงใดๆ ครับ ยังตะลุยดะราวกับว่าเป็นอมตะ มีลูกปืนฝังอยู่ในร่างก็ยังไล่ฆ่าแก๊งค์ยากูซ่าได้ น่าแปลกเหมือนกันที่ภาคก่อนๆ เราเคยเห็นโลแกนโดนลูกปืนยิงฝังหัวมาแล้วแต่ก็รอดมาได้เพราะพลังฟื้นตัวที่รวดเร็ว แต่พอภาคนี้ไม่ได้เป็นอมตะแล้วลูกกระสุนที่พุ่งใส่ก็ไม่เข้าหัวอีกเลย โดนทั้งขา ทั้งแขน ทั้งหน้าอกด้านขวา ที่ท้องก็โดน เออแปลกดี สงสัยยากูซ่าที่นี่ยิงปืนไม่แม่น มันเลยทำให้ดูเป็นหนังจนเกินไป ไม่เหมือนกับว่ากำลังเข้าไปอยู่ในเหตุการณ์ ความรู้สึกคือเหมือนเดิม ไม่ตายแน่นอน นอกจากนี้ยังเสียดายที่บทหนังไม่ส่งให้การแสดงของมาริโกะเข้าถึงอารมณ์ได้อย่างที่ควรจะเป็น เช่นทำไมเธอถึงพยายามจะฆ่าตัวตาย ทำไมถึงได้หลงรักกับโลแกนได้ เพราะมันไม่มีบรรยากาศโรแมนติกให้ได้ปิ๊งกันเลย กลายเป็นว่าปุปปัปก็ลงเอยกินตับกันเสร็จสรรพแล้ว อีกเรื่องนึงคือบทบาทของไวเปอร์ และยูคิโอะที่ดูจะมีบทบาทน้อยเหลือเกิน ทั้งๆ 2 คนนี้คือตัวละครสำคัญในจักรวาลของ X-Men จึงเสียดายที่น่าจะมีอะไรๆ ให้ดูมีความสำคัญมากกว่านี้ สรุป 7/10 สำหรับ The Wolverine ครับ ดูแบบธรรมดาก็พอแล้วครับ ไม่ต้องดู 3D หรอกครับ

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Copyright Notice

Copyright © 2014 FilmsInbound

All rights reserved.

Powered by Blogger

Super SEO created by Blogger Tuts

Published by GalleryBloggerTemplates.com