Review: Thor: The Dark World (2013)
สำหรับภาคนี้ โลกตกอยู่ในอันตรายอีกครั้ง เมื่อ มาเลคิธ ราชาแห่งเผ่าดาร์คเอลฟ์ต้องการใช้พลังงานไร้ขีดจำกัดที่เรียกว่าเอเธอร์ มาทำลายล้างจักรวาล โดยอาศัยปรากฎการณ์การเรียงตัวของดวงดาวเป็นตัวส่งต่อพลังทำลายไปให้ทั่วทั้งจักรวาล ปรากฏการณ์ดังกล่าวก่อให้เกิดการเทเลพอร์ต และ ดร. เจน ฟอสเตอร์ ก็ถูกเทเลพอร์ตไปรับเอเธอร์เข้ามาไว้ในร่างอย่างไม่ได้ตั้งใจ ธอร์จึงต้องลงมาช่วยเจนเพื่อหาวิธีรักษา และเพื่อป้องกันไม่ให้เอเธอร์ตกไปอยู่ในมือของมาเลคิธ แต่มาเลคิธก็ส่งปีศาจร้ายเข้ามาในคุกแอสการ์ดเรียบร้อยแล้ว.......
แม้ว่าภาคนี้เราจะได้เห็นพละกำลังและความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้นของธอร์ เทพเจ้าสายฟ้า แต่พลังการแสดงของ Chris Hemsworth ก็ไม่ได้มีอะไรโดดเด่น ดูธรรมดามาก แค่คนที่มีพลังมากคนนึง ที่จริงแล้วธอร์ในภาคแรกยังดูดีกว่าภาคนี้ครับ ภาคนี้จึงดูไม่ค่อยมีอะไรให้จดจำ เพราะภาคแรกธอร์ต้องพิสูจน์ตัวเอง การรับบทเรียนจากการตัดสินใจที่ผิดพลาด การเปลี่ยนจากชายหนุ่มผู้ที่มุทะลุ ดุดัน ไม่คิดหน้าคิดหลัง มาเป็นคนที่สุขุมและมีเมตตาต่อทุกคน เมตตาแม้กระทั่งโลกิ น้องชายสายเลือดโยทันไฮม์ของเค้าที่กลายเป็นศัตรูตัวฉกาจ แต่สำหรับภาคนี้เทพเจ้าสายฟ้าของเราดูจะเป็นรองโลกิอย่างเห็นได้ชัด ต้องบอกว่าโลกิของ Tom Hiddleston เป็นอะไรที่โดดเด่นที่สุดแล้วในเรื่องนี้ ทั้งหลอกล่อ ลวงตา เจ้าเล่ห์ เย่อหยิ่ง อันตราย และไม่อาจคาดเดาได้ว่ากำลังมีแผนอะไร เปิดตัวมาก็ขโมยซีนซะเลยด้วยการแปลงร่างเป็นคนนั้นคนนี้ แถมมีการแซวเพื่อนใหม่ของพี่ชายตัวเองแบบขำๆ สุดท้ายแล้วโลกิก็ใช้ไหวพริบของตนมาหลอกให้ธอร์และคนดูตายใจ เชื่อสนิทในสิ่งที่เห็น และหนังได้เฉลยท้ายเรื่องว่ามันเป็นเพียงมายา ดังนั้นภาคนี้โลกิได้ใจผมไปเต็มๆ ครับ อีกหนึ่งคนที่อดชมไม่ได้ ก็คงหนีไม่พ้นสาวน้อย Kat Dennings ในบทของดาร์ซี่ ที่พกเอาความน่ารักสดใสมาให้เราได้ยิ้มกันแก้มปริ
Thor: The Dark World เดินเรื่องได้เร็ว และได้พยายามขยายความให้เราได้เข้าใจถึงการเชื่อมโยงกันระหว่างโลกและดวงดาวอื่นๆ และนั่นเองที่จะนำไปสู่โลกที่ใหญ่ยิ่งกว่าเดิมในธอร์ภาคต่อไปครับ อ้อ อีกอย่างนึง เครดิตตอนแรกท้ายเรื่องน่ารักมาก ออกมาให้ขำจริงๆ ส่วนเครดิตที่สองคนที่เป็นแฟนคอมมิคส์จะเข้าใจได้ทันทีเลยว่าสิ่งที่เลดี้ซิฟนำมาให้กับนักสะสมจะกลายมาเป็นอาวุธสำคัญสำหรับ ธานอส ตัวการร้ายผู้ที่เคยให้โลกิยืมกองทัพชิกอรี่ลงมาบุกโลกใน The Avengers นั่นเอง สรุปเรื่องนี้ 8/10 ครับ
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น