Review: Fast and Furious 6 เร็ว แรงทะลุนรก

Fast and Furious 6

รีวิวหนัง Fast and Furious 6 หนังเรื่องที่ 6 ของตระกูล Fast & Furious ที่ผู้กำกับจัสติน ลิน ผู้ที่เข้าถึงอารยธรรมของหนังบู๊สไตล์รถซิ่งวิ่งระเบิดถล่มภูเขาเผาตึก ได้สร้างความมันส์ระดับ 5 ดาวไว้เป็นที่จดจำก่อนที่หนังภาค 7 ซึ่งน่าจะเป็นบทสรุปของหนังตระกูล Fast จะเปลี่ยนมือไปเป็นผู้กำกับเจมส์ วาน ที่ถนัดหนังสยองขวัญ (Saw, Insidious, The Conjuring) ดังนั้นภาคนี้อาจจะเป็นภาคสุดท้ายที่เราจะได้กลิ่นอายความมันส์ในแบบ Fast ภาคนี้จัสติน ลิน จึงจัดเต็มในทุกๆ ฉาก ที่จะตรึงทุกสายตาและกระตุ้นอะดรีนาลินในร่างกายของคนดู เป็นการส่งท้ายก่อนจะวางมือ และหันไปทำโปรเจ็คท์ใหม่ครับ


สำหรับใครที่ยังไม่ได้ดูภาคก่อนหน้านี้ อาจจะงงหรือไม่เข้าใจเรื่องราวทั้งหมด ผมแนะนำให้ไปหาดูมาก่อนทั้ง 5 ภาคเลยนะครับ แล้วคุณจะเห็นพัฒนาการของหนังที่เดิมตั้งแต่ภาคแรกผู้กำกับเป็นร๊อบ โคเฮน ต่อมาก็เป็นจอห์น ซิงเกิลตัน และมาเป็น จัสติน ลิน ตั้งแต่ภาคที่ 3 ที่จัสติน ลิน พยายามใส่ลงไปให้หนังของเค้ามีความสดใหม่ จึงเป็นแฟรนไชส์หนังที่ไม่น่าเบื่อเลย

สำหรับ Fast and Furious 6 เดินเรื่องต่อจากภาคที่แล้วทันที หลังจากที่สมาชิกทุกคนวางมือสำหรับชีวิตโจรขโมยรถแล้ว แต่เหตุที่ทำให้ดอมินิก ทอเร็ตโต้ ต้องเรียกทั้งทีมมาเพื่อลุยในภารกิจเสี่ยงตายอีกครั้ง เป็นเพราะสิ่งที่ถูกทิ้งท้ายไว้ในช่วงหลังเครดิตในภาคที่ 5 นั่นเอง ต้องให้เครดิตแก่คริส มอร์แกน ผู้เขียนบทมาตั้งแต่ The Fast and the Furious: Tokyo Drift เค้าวางโครงเรื่องเอาไว้ดีมาก ที่ทำให้หนังโจรกรรมรถ หรือแข่งรถซิ่งบนท้องถนน กลายเป็นหนังที่ซับซ้อนมากขึ้นเรื่อยๆ สเกลของหนังที่ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ฉากเสี่ยงตายที่อันตรายมากขึ้น มีตัวละครใหม่ๆ เข้ามาเสริมอรรถรส จนมันดูยิ่งใหญ่ครับ โดยเฉพาะภาค 6 นี้ เป็นงานสร้างหนังที่ยิ่งใหญ่ และมีเอกลักษณ์ของ Fast ครับ เพราะภาคที่แล้วเปลี่ยนสไตล์ไปเป็นหนังแอ๊คชั่นแบบเต็มตัว ที่แม้ว่าจะประสบความสำเร็จในแง่ของรายได้ แต่มันไม่กินใจแฟนหนังขาซิ่งครับ แต่สำหรับภาคนี้ จัสติน ลิน นำเอาเอกลักษณ์เดิมของ Fast กลับมา มีกลิ่นอายของหนังแข่งรถที่เต็มไปด้วยสีสัน สาวสวยที่ต้องคู่กับรถสวย เสียงดนตรีแนวฮิพฮอพ R&B มุกตลกโปกฮาที่พาเราขำก๊ากได้แบบไม่ต้องกั๊ก ภาคนี้ได้ดูอย่างจุใจครับ

Fast and Furious 6

สำหรับเนื้อเรื่องภาคนี้เหล่าเพื่อนผองนักซิ่งของดอมต้องพบกับศัตรูใหม่ที่แข็งแกร่งกว่าทุกภาค และเป็นภารกิจที่เสี่ยงตายมากกว่าภาคไหนๆ ในแง่ของเหตุผลว่าทำไมต้องเสี่ยง ถ้าใครได้ดูแล้วจะพบว่าเหตุผลที่ทุกคนรับงานนี้มันคุ้มค่ามาก นอกเหนือจากดอมที่รับงานนี้เพราะเรื่องส่วนตัว แต่งานเสี่ยงย่อมมีการสูญเสียครับ ภาคนี้จึงมาเต็มทั้งอารมณ์และความรู้สึกแบบสุข สนุก ขำขัน ตื่นเต้น ระทึก และเศร้าโศก

และหนึ่งในสิ่งที่หลายๆ คนเคยมีคำถามว่า
"ตกลงแล้วพี่ฮาน ตายตั้งแต่ภาค Tokyo Drift แล้วไม่ใช่เหรอ ทำไมมาโผล่ในภาค 5 ได้ล่ะ?"
จะได้คำตอบเฉลยให้เราได้ชมกันท้ายเครดิตของหนังภาค 6 ครับ และจะเป็นชนวนชั้นดีสำหรับการเดินเรื่องในภาคต่อไป ที่จะต้องลุ้นกันว่า Fast 7 ที่ได้เจมส์ วาน กำกับ จะทำได้ดีเหมือนหนังมาสเตอร์พีซของจัสติน ลิน หรือไม่ สำหรับผม ภาคนี้ได้ใจไปเต็มๆ สะกดทุกสายตา และตรึงเอาไว้ได้แบบอยู่หมัด ภาคนี้แนะนำว่าต้องไปดูให้ได้ครับ หนังดีระดับ 5 ดาวเลย

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Copyright Notice

Copyright © 2014 FilmsInbound

All rights reserved.

Powered by Blogger

Super SEO created by Blogger Tuts

Published by GalleryBloggerTemplates.com