Review: Snow White and the Huntsman ตีความใหม่ แต่ไร้ซึ่งความตื่นเต้น

Snow White and the Huntsman



จากนิทานปรัมปราของฝรั่งที่เล่าสู่กันมาตั้งแต่รุ่นคุณปู่คุณย่ายังเด็ก สู่แผ่นฟิล์มในยุคปัจจุบันด้วยรูปแบบที่ได้รับการตีความใหม่ ไม่ซ้ำกับเนื้อหาเดิมของนิทานต้นฉบับ พร้อมรึยังกับการผจญภัยในโลกแฟนตาซีกับเจ้าหญิงสโนว์ไวท์ผู้งามเลิศในปฐพี

Snow White and the Huntsman กล่าวถึงเรื่องราวของเจ้าหญิงสโนว์ไวท์ (รับบทโดย Kristen Stewart) ผู้สูญเสียบิดาไปด้วยฝีมือของแม่มดใจโฉด ราเวนน่า (รับบทโดย Charlize Theron) นางคือหญิงรูปงามที่ทำให้พระราชาแม็กนัสหลงใหล และทำการอภิเษกกับราเวนน่า ก่อนจะถูกเธอสังหาร และนำกองทัพเข้ายึดปราสาท

โดยมีน้องชายเป็นคนช่วยเหลือ ราเวนน่าตั้งตนเป็นราชินีปกครองแผ่นดิน ส่วนขุนนางคนอื่นก็หนีไปอยู่ที่ปราสาทของดยุคแฮมมอนด์ ซึ่งภักดีกับกษัตริย์แม็กนัสที่ถูกลอบสังหาร ส่วนสโนว์ไวท์ก็ถูกจับขังไว้อีกด้านนึงของปราสาทราชินีราเวนน่า โดยราเวนน่าจะใช้กระจกวิเศษสอบถามว่าใครที่มีรูปโฉมงามที่สุดในปฐพี ซึ่งกระจกวิเศษก็ให้คำตอบที่นางพอใจอยู่เสมอ จนถึงวันที่สโนว์ไวท์โตเป็นสาว ส่วนราเวนน่าโรยราไปตามสังขารที่ไม่เที่ยง กระจกวิเศษจึงบอกว่าตอนนี้ความงามเลิศตกเป็นของสโนว์ไวท์แล้ว ราเวนน่ายอมไม่ได้ ต้องนำหัวใจของสโนว์ไวท์มาเพื่อความงามแบบอมตะ แต่ไม่ว่าเธอจะทำอย่างไรเธอก็ไม่สามารถทำอะไรสโนว์ไวท์ได้เลย เธอหนีรอดเงื้อมมือของกองทหารของราเวนน่า และทุกคนที่ตามล่าเธอเพื่อราเวนน่า ทำให้สโนว์ไวท์ได้ไปถึงปราสาทของดยุคแฮมมอนด์ ก่อนจะรวมกำลังแล้วกรีฑาทัพกลับมาตีปราสาทของราเวนน่า เพื่อปลดแอกแผ่นดินต้องคำสาป แต่มีหรือที่ราเวนน่าผู้มีอิทธิฤทธิ์จะยอมง่ายๆ

หนังเดินเรื่องค่อนข้างเฉื่อยสำหรับผมครับ แล้วก็หลายๆ อย่างในหนังมันไม่ค่อยสมเหตุสมผลซักเท่าไหร่ พอสโนว์ไวท์โตเป็นสาวแล้ว ราชินีที่ความงามกำลังโรยราก็พบว่าเธอคือเคล็ดลับนำไปสู่ความงามเป็นอมตะ แต่ด้วยความโชคดี หรือได้อะไรบางอย่างช่วยเหลือ ทำให้เธอรอดพ้นเงื้อมมือของชายฉกรรจ์อย่างน้องชายของราชินี และเหล่าทหารในเครื่องแบบติดอาวุธมาได้อย่างไม่น่าเชื่อ แถมยังได้ขี่ม้าหนีกองทหาร ใช่ครับ หญิงสาวที่ติดคุกมาตั้งแต่เด็ก เจอม้าครั้งแรกหลังจากออกจากคุก ขี่ม้าเก่งกว่าทหารทั้งกองอีก แต่มันเป็นหนังแฟนตาซีครับ ดังนั้นเรื่องนี้จึงเป็นไปได้

Snow White and the Huntsman

ในเรื่องของการแสดงของตัวละคร นายพราน Chris Hemsworth บทบาทที่ต้องดุดัน แอ๊คชั่นบู๊ยังทำได้ดี แต่การแสดงถึงความรักแบบแอบรักข้างเดียวต่อสโนว์ไวท์ ดูแข็งจริงๆ ดูแล้วเชื่อได้ยากว่านี่แอบรักเธออยู่นะ ขณะทีตัวของ Kristen Stewart เธออาจเป็นคนสวยในแวมไพร์ทไวไลท์ครับ แต่ก็ไม่มีอะไรที่น่าจดจำสำหรับบทบาทสโนวไวท์ ไม่สะดุดตา การแสดงพลังในการโน้มน้าวชาวเมืองก็ดูไม่มีพลังพอที่จะทำให้คนยอมถือดาบออกไปสู้กับกองทัพ ส่วนเหล่าคนแคระ ก็ไม่ค่อยวุ่นวายหรือสร้างเสียงฮาได้ซักเท่าไหร่ คนที่มีพลังมากที่สุดสำหรับหนังเรื่องนี้ คงหนีไม่พ้น Charlize Theron ที่งัดฝีไม้ลายมือในการแสดงออกมา จนทำให้เธอดูน่าเกรงขามเวลาแสดงอำนาจ และน่าสงสารในยามที่เธอกำลังโรยรา และถ้าผมเป็นกระจกวิเศษคงจะบอกว่าเธองามเลิศในปฐพีจริงๆ

Snow White and the Huntsman

สิ่งที่หนังทำได้ดีคืองานสร้างฉากครับ กราฟฟิคเนียนมาก จนถึงขั้นได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ 2012 สาขาเอฟเฟคท์ยอดเยี่ยม และเครื่องแต่งกายยอดเยี่ยม แม้ว่าจะปิ๋วไปทั้งคู่ แต่มันก็เหมาะสมจริงๆ ครับ ฉากป่ามืดที่คอยหลอกหลอนสโนว์ไวท์นั้นสมจริง แถมฉากในป่าของภูติและเทพก็สวยงาม สดใส และมีชีวิตชีวาครับ ฉากการพบกับกวางเขางามนั้นเป็นช่วงที่ผมประทับใจที่สุดในเรื่องแล้ว เพราะบรรยากาศตอนนั้นดูสดใสและมีสีสันที่สุดในหนังที่เน้นโทนสีหม่นและมืดมน เรียกว่าตอนเห็นกวางเขางามกลางธรรมชาติ และดอกไม้ที่กำลังเบ่งบาน ต้องมีคนรู้สึก "ฟิน" กันบ้างแน่ๆ

Snow White and the Huntsman

Snow White and the Huntsman ทุนสร้าง 170 ล้านเหรียญ และทำรายได้ไปเยอะถึง 396 ล้านเหรียญครับ ผมไม่แน่ใจว่าหนังมันดีขนาดนั้นเลยเหรอ หรือเพราะกระแสของเรื่องฉาวระหว่างนางเอกที่ดันไปคบชู้กับผู้กำกับของเรื่องก็ไม่รู้นะครับ แต่ที่แน่ๆ ถ้าผมไปดูเรื่องนี้ที่โรงหนัง ผมต้องรู้สึกเสียดายตังค์แน่ๆ แค่เช่ามาดูเวลาไม่มีอะไรทำดีกว่าครับ ดีกว่าอยู่เปล่าๆ

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Copyright Notice

Copyright © 2014 FilmsInbound

All rights reserved.

Powered by Blogger

Super SEO created by Blogger Tuts

Published by GalleryBloggerTemplates.com